นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (17 มิ.ย.65) ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทนของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้เพื่อนำเสนอประเด็นปัญหาและติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ “ชาวประมง” พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายงานบทสรุปนโยบายของมูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation: EJF) ที่ได้เสนอต่อรัฐบาลไทย โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เข้าร่วมด้วย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
คณะผู้แทนสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ดูแลช่วยเหลือ “ชาวประมง”อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้สินเชื่อเงินกู้ “ชาวประมง” ที่ได้มีการดำเนินการทันทีหลังนายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับประเด็นข้อเสนอของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยที่จะให้รัฐบาลดำเนินการ เช่น ขอความอนุเคราะห์ช่วยผลักดัน “การแก้ไขกฎหมายประมงทั้งฉบับ” เนื่องจากการออกกฎหมายประมงขาดการมีส่วนร่วม อาทิ พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และ 2560 เร่งรัดแก้ไขกฎหมายลูก (กฎกระทรวงในการออกใบอนุญาตทางการประมง) เพื่อเป็นการบูรณาการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ การแก้ไขปัญหาการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศ ขอให้ผลักดันเร่งออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หนังสือคนประจำเรือ พ.ศ.
และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษฯ เพื่อให้ “แรงงานประมง” ได้ต่ออายุและทำงานในเรือประมงโดยเร็ว การเร่งผลักดันกระบวนการนิรโทษกรรมเครื่องวิทยุในเรือประมง เป็นต้น
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ “ชาวประมง” มีความก้าวหน้าโดยลำดับ ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อมูลและข้อเสนอต่าง ๆ ของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประมง รับไปพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปอย่างเหมาะสม พิจารณาตามความความจำเป็นเร่งด่วน ดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดำเนินการอย่างเป็นระบนตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการดูแลเรื่องราคาพลังงานและน้ำมันด้วยว่า รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียดีขึ้น จะทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมันและพลังงานคลี่คลายดีขึ้น