อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงพื้นตรวจเยี่ยมฟาร์มโคนมอินทรีย์ สร้างขวัญกำลังใจ พร้อมตรวจติดตามงานตามนโยบาย ย้ำเกษตรกรได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ และขายได้ราคาสูง
วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เวลา 9.00 น. นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลงพื้นสร้างขวัญกำลังใจและตรวจติดตามงานตามนโยบายกรมปศุสัตว์ พร้อมด้วยท่านปศุสัตว์เขต1, ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ ,ผอ.กองคลัง ,ผอ.กองแผนงาน ,เลขานุการกรมปศุสัตว์ เข้าร่วมประชุมสัมมนาในครั้งนี้
กรมปศุสัตว์ เป็นหน่วยงานสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนางานด้านปศุสัตว์ ให้มีความเจริญก้าวหน้า มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการบริโภคทั้งภายในประเทศ และส่งออก จึงถือเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่สร้างความเข้มแข็งของภาคเกษตรไทย
ซึ่งในปี 2566 กรมปศุสัตว์มีแนวทางการขับเคลื่อนงานที่สามารถนำไปต่อยอดได้ อาทิ ด้านการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์ให้แก่เกษตรกร ด้านการป้องกันและควบคุมโรค ด้านการสร้างมาตรฐานการผลิตปศุสัตว์เพื่อความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและสร้างมาตรฐานการส่งออกให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เกษตรกร โดยส่งเสริมรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร การสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรเกษตรกรสามารถนำความรู้ไปพัฒนาอาชีพ
ขณะเดียวกันอธิบดีกรมปศุสัตว์ ยังได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร พร้อมมอบปัจจัยการผลิตแก่ฟาร์มโคนมอินทรีย์ ต.ซับสนุ่น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และมอบปัจจัยการผลิต เช่น หญ้าอาหารสัตว์ วิตามิน แร่ธาตุ และยาถ่ายพยาธิ เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ของสัตว์
โดยฟาร์มโคนมอินทรีย์ เริ่มจากการเลี้ยงโคนมในระบบปกติมาก่อน แต่ต้นทุนการผลิตสูง ไม่มีกำไรเทรนด์อินทรีย์กำลังมา จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดมาเลี้ยงแบบอินทรีย์ เน้นการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนการผลิตต่ำ พึ่งพาตนเองได้ขายผลผลิตได้ในราคาสูงกว่าท้องตลาด
วิธีการเลี้ยงสัตว์การดูแลรักษาการแปรรูปผลผลิต เน้นการเลี้ยงแบบอินทรีย์ ตามหลักมาตรฐานปศุสัตว์อินทรีย์ โดยเลี้ยงแบบอินทรีย์ธรรมชาติ ให้กินอาหารอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีทำให้โคมีสุขภาพดี ไม่เครียดไม่ป่วยง่าย ทำให้ลดต้นทุนการผลิตทั้งด้านอาหาร และด้านสุขภาพ อีกทั้งยังขายน้ำนมดิบได้ในราคาที่สูงเคล็ดลับพิเศษมุ่งเน้นการเลี้ยงโคนมแบบอินทรีย์ ไม่มีการใช้สารเคมีภายในฟาร์ม เพื่อลดต้นทุนการผลิต และส่งมอบน้ำนมอินทรีย์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค
อธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะ ยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์มแพะครบวงจร “ซาฮีร่าฟาร์ม” ต.หนองย่างเสือจ.สระบุรี โดยซาฮีร่าฟาร์ม ได้พัฒนาฟาร์มให้ได้มาตรฐาน GAP พัฒนาโรงงานแปรรูปให้ได้มาตรฐาน GMP และได้นำเทคโนโลยี IoT ของ Things on Net สามารถที่จะประยุกต์ใช้ได้หลากหลายในฟาร์ม เช่น ตัวเซ็นเซอร์สำหรับวัดอุณหภูมิและความชื้น ช่วยควบคุมการบริหารจัดการในฟาร์มได้ดีมากช่วงปลายฝนต้นหนาว ถือเป็นช่วงปราบเซียนของธุรกิจนี้ เพราะสัตว์อาจจะเป็นปอดชื้นได้ แต่พอมีเทคโนโลยี ที่สามารถอ่านค่าอุณหภูมิและความชื้น พร้อมเก็บข้อมูลในระยะยาวได้ ช่วยให้ฟาร์ม สามารถแก้ไขได้ทันเวลา รวมถึงเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงแพะมากขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตแพะ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมและพัฒนาให้การเลี้ยงแพะ เป็นอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรต่อไป