กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศนำทัพสหกรณ์โคนมและผู้ประกอบการโคนมแปรรูปไทย บุกสำรวจตลาดกัมพูชา ทั้งอีออนมอลล์ ชิปหมง ลัคกี้ ซุปเปอร์มาร์เก็ต แมคโคร หาลู่ทางใช้ประโยชน์จาก FTA ในการบุกเจาะตลาด พร้อมจัดจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้า ห้าง กว่า 64 ราย มั่นใจยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และผลิตภัณฑ์นมไทย เข้าไปวางจำหน่ายในกัมพูชาได้เพิ่มขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้น.ส.บุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นำสหกรณ์โคนมและผู้ประกอบการนมโคแปรรูปไทยทั่วประเทศ 17 บริษัท ทั้งนมพาสเจอร์ไรส์ นมยูเอชที ไอศกรีม นมอัดเม็ด และโยเกิร์ต เดินทางสำรวจศักยภาพตลาดกัมพูชา และจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าและห้างโมเดิร์นเทรด ระหว่างวันที่ 14-16 ก.พ.2566 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ภายใต้โครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA” เพื่อผลักดันการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ส่งออกสินค้านมโคแปรรูปไทยไปตลาดกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน ที่ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าศุลกากรให้กับสินค้านมและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ทำให้เป็นแต้มต่อทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย
สำหรับการเดินทางไปครั้งนี้ได้สำรวจศูนย์การค้าที่มีศักยภาพของกัมพูชาทั้งอีออนมอลล์ ชิปหมง ลัคกี้ซุปเปอร์มาร์เก็ต และแมคโคร ทำให้เห็นถึงการพัฒนาทางการค้าที่รวดเร็ว ทราบถึงทิศทางตลาดและความต้องการของผู้บริโภค และได้ประสบการณ์และมุมมองใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดทางธุรกิจ พร้อมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ของมูมู่ฟาร์ม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตนมพาสเจอร์ไรซ์รายสำคัญในกัมพูชา และยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้ากัมพูชาและห้างโมเดิร์นเทรด จำนวนกว่า 64 ราย คาดว่าจะมียอดสั่งซื้อสินค้าจากผู้นำเข้ากัมพูชาเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้านมไทยหลายแบรนด์ได้วางจำหน่ายบนห้างโมเดิร์นเทรดในกัมพูชา และศูนย์การค้าของไทยที่ลงทุนในต่างประเทศ เช่น แมคโคร แล้ว และจากนี้ คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์นมของไทย เข้าไปวางจำหน่ายได้เพิ่มมากขึ้นอีก
“โครงการโคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า พร้อมทั้งได้เดินทางไปสำรวจศักยภาพตลาดและจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าจีนและสิงคโปร์โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินโครงการ เป็นทั้งแบบจับคู่ธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์กับคู่ค้าจีน การนำสินค้าขึ้นเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเถาเป่าของจีน และการทำ Live Sale ทำให้มีมูลค่าการส่งออกนมโคแปรรูปกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย”นางอรมนกล่าว
กัมพูชา เป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทย ที่มีการค้าขายระหว่างกันผ่านการค้าชายแดน ทางด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ และไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ไปกัมพูชาเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน มีมูลค่าถึง 167 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 37.6% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ในตลาดโลก โดยมีสินค้าส่งออกหลัก คือ นมพาสเจอร์ไรส์ และนมยูเอชที