เจ้าหน้าที่สนธิกำลังจับแก๊งลักลอบขนเนื้อหมูแช่แข็ง ยึดของกลาง 2,000 ก.ก.มูลค่ากว่า 200,000 บาทพร้อมรถยนต์ 1 คัน และผู้ต้องหา 1 คน พบเคยถูกจับมาแล้วในคดีลักษณะเดียวกัน อ้างได้ค่าจ้างขนส่ง 2,000 บาท จนท.เร่งนำเนื้อหมูไปฝั่งกลบหวั่นเป็นพาหะนำเชื้อโรคจากต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 นายปิติณัช ศรีธรา นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบนำสินค้าเนื้อสุกรแช่แข็ง มีเมืองกำเนิดต่างประเทศเข้ามาบริเวณบ้านหว้านน้อย อำเภอหว้านใหญ่จังหวัดมุกดาหาร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรถูกต้อง
โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ NISSAN NAVARA สีขาว หมายเลขทะเบียน ผต -1066 อุบลราชธานี เพื่อเคลื่อนย้ายเข้าไปพื้นที่ชั้นใน จึงได้สั่งการและประสานให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านศุลกากรมุกดาหารสำนักงานศุลกากรภาคที่ 6 กรมศุลกากร ร่วมกับหน่วยสืบสวนและปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนและปราบปราม ประสานด่านกักกันสัตว์มุกดาหารด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร ตชด.234 และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ประชุมวางแผนแล้วลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง
นายนพปฎล ศิริชันธ์ หัวฝ่ายสีบส่วนและปราบปรามศุลกากรมุกดาหาร กล่าวว่า กระทั่งเวลาประมาณ 06.40 น.เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ NISSANVARA สีขาว หมายเลขทะเบียนตามที่แจ้งได้แล่นมาตามเส้นทางถนน 212 บ้านนาตะแบง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ฯ ได้ขับรถติดตามไปจนถึงสวนยางพารา บ้านนาตะแบง ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดในสวนยางพารา จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบชายซึ่งเป็นคนขับ นั่งอยู่ข้างในรถ ทราบชื่อ นายพรภิรมย์ ศิริบูรณ์ ภูมิลำเนาจังหวัดอุบลราชานี และเมื่อตรวจสอบท้ายกระบะ พบเนื้อสุกรแช่งแข็งเป็นก้อน แต่ละก้อนมีน้ำหนักประมาณ 6-8 กิโลกรัม ซึ่งแต่ละก้อนน้ำหนักไม่เท่ากัน น้ำหนักรวมจำนวน 2,000 ก.ก. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อตรวจนับให้ละเอียดอีกครั้ง
ด้านนาย พรภิรมย์ ศิริบูรณ์ คนขับรถกระบะ อ้างว่า ได้รับค่าจ้างให้ไปรับเนื้อหมูที่ อ.หว้านใหญ่ ในราคาค่าจ้าง 2,000 บาท เพื่อไปส่งต่อที่จังหวัดยโสธร แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับได้เสียก่อน
จากการตรวจสอบ พบว่า นายพรภิรมย์ เคยถูกเจ้าหน้าที่จับมาแล้วเมื่อวันที่ 13 ต.ค.65 และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในคดีลักษณะเดียวกัน ต่อมาได้มีนนาย นพรัตน์ นาโท รับเป็นเจ้าของเนื้อหมูแซ่แข็งดังกล่าว และยินยอมระงับคดีโดยยกของกลางทั้งหมดเป็นของแผ่นดิน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้แจ้งให้นายพรภิรมย์ ศิริบูรณ์ รับทราบว่า สิ่งของดังกล่าวเป็นของลักลอบหนีศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 ประกอบ มาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ.2560 และเป็นของอันพึงต้องริบ ตามมาตรา 166 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่จึงยึดสิ่งของดังกล่าวไว้ ตามมาตรา 167 แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์พ.ศ.2558 มาตรา 3 วรรค 1 และนำส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ศุลกากรมุกดาหาร พร้อมด้วยนายฉลองรัฐ จันทร์ส่งแก้ว และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ได้ทำการขุดหลุมลึกประมาณ 3 เมตร แล้วใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคโรยบริเวณปากหลุมก่อนนำเนื้อหมูแช่แข็งลงไปฝังกลบ