กรมปศุสัตว์สนองงานตามพระราชดำริพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดำเนินโครงการสัตวแพทย์พระราชทาน จ.นครพนม เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา
นายสัตว์แพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม2565 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ กรมปศุสัตว์ได้สนองงานตามพระราชดำริจัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
การให้บริการด้านสวัสดิภาพสัตว์แก่เกษตรกรและประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์ เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส มีการออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาพยาบาลสัตว์ บริการผสมเทียม ให้คำปรึกษาแนะนำด้านปศุสัตว์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสัตว์ กำจัดพยาธิภายใน – ภายนอก แจกยาและเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว เพี่อช่วยพัฒนาสุขภาพสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงเป็นการป้องกันโรคระบาดสัตว์และโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน ซึ่งการจัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ที่จังหวัดนครพนม ในปี 2565 นี้เป็นครั้งที่ 64 แล้ว
โครงการสัตวแพทย์พระราชทานเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2550 ในจังหวัดสกลนครเป็นที่แรก โดยจัดกิจกรรมปีละ 4 ครั้ง ปี 2565 นี้เป็นปีที่ 15 ของโครงการ ได้ดำเนินการจัดที่จังหวัดอุทัยธานี เชียงรายสงขลา และครั้งนี้ที่จังหวัดนครพนม เป็นการดำเนินงานครั้งที่ 64 รวมได้ดำเนินการมาแล้วใน 54 จังหวัดช่วยเหลือเกษตรกรผู้มารับบริการแล้วจำนวน 66,151 ราย สัตว์ที่ได้ให้บริการแล้วจำนวน 666,808 ตัว
กรมปศุสัตว์ร่วมกับสัตวแพทย์สภา หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา ที่ดำเนินงานด้านปศุสัตว์ ได้ร่วมถวายงานในด้านการช่วยเหลือเกษตรกผู้เลี้ยงสัตว์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้เกิดความกินดีอยู่ดีของประชาชนชาวไทยตามพระราชประสงค์
และดำเนินโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริฯ ครั้งที่ 64 นี้ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2565 ณ จังหวัดนครพนม ในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม อำเภอธาตุพนม อำเภอศรีสงคราม และอำเภอนาหว้า เพื่อให้ความช่วยเหลือและถ่ายทอดความรู้อบรมแก่เกษตรกรไม่น้อยกว่า 550 ราย และให้บริการในการรักษาด้านสุขภาพสัตว์ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัว
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์จะพัฒนางานด้านปศุสัตว์ให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนองพระราชดำริ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกภาคส่วน รวมทั้งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จะตั้งใจและร่วมมือกันดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ต่อไป
ทั้งนี้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมค้นหาได้ที่www.dld.go.th หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 หรือ application DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง