นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฟาร์มแพะของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบางมูลนาก จำกัด พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และคณะผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี นายธวัชชัย เลี้ยงประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางสาวเบ็ณยทิพย์ อ่ำดิษฐ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบางมูลนาก จำกัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และกลุ่มสมาชิกผู้เลี้ยงแพะของสหกรณ์ฯ ให้การต้อนรับ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเสริมให้สหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ สร้างอาชีพที่มั่นคง และมีความเข้มแข็ง ซึ่งจากภาวะฝนแล้ง น้ำท่วม ภัยพิบัติต่างๆ ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาการทำเกษตร
กระทรวงเกษตรฯ จึงส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำอาชีพเสริมหลังทำนา โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเลี้ยงแพะสร้างรายได้ เนื่องจากแพะเนื้อเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่เพียงพอต่อการบริโภค นับเป็นสินค้าปศุสัตว์ทางเลือกที่น่าสนใจ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ปัจจุบันได้รับความนิยมเลี้ยงในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สำหรับการค้าและบริโภค เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อทุกสภาพภูมิอากาศใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย และให้ผลตอบแทนเร็ว
ทั้งนี้ จังหวัดพิจิตรถือเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวอันดับต้น ๆ ทางภาคเหนือ แต่ในพื้นที่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เกษตรกรบางส่วนสามารถทำนาได้เพียงปีละครั้ง เนื่องมาจากภาวะขาดแคลนแหล่งน้ำในการทำเกษตรกรรม ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายตลอดทั้งปี และก่อให้เกิดหนี้สินระยะยาว
ในปี 2560 สหกรณ์ฯ จึงได้ดําเนินโครงการส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพื่อเพิ่มรายได้ในช่วงหลังฤดูทํานา แก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร โดยสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนในรูปเงินกู้แก่สมาชิกเพื่อจัดเตรียมโรงเรือน จัดหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แพะ และอาหารสัตว์ รวมทั้งจัดหาตลาดให้แก่สมาชิก อีกทั้งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิจิตรได้สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์พิจิตรสอนแนะการทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนการผลิตแก่สมาชิก และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร ให้การสนับสนุนด้านเวชภัณฑ์ การอภิบาลและการเลี้ยงดูแพะ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาหนี้สิน ซึ่งทำให้สหกรณ์ไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างเข้มแข็ง ดังนั้นการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงแพะร่วมกับการทำการเกษตรหลักด้วย จะทำให้สามารถสร้างรายได้แก่สมาชิกอีกทางหนึ่ง เห็นได้จากเดิมสมาชิกมีภาระหนี้สินจำนวนมาก แต่เมื่อหันมาเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริม ส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากการเลี้ยงแพะเนื้อแล้ว ก็ต้องส่งเสริมการปรับปรุงพันธุ์แพะให้เป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้ง ส่งเสริมอาชีพอื่น ๆ อาทิ การเลี้ยงแพะนม การปลูกพืชผักชนิดต่าง ๆ ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยให้สมาชิกมีความกินดี อยู่ดีมากยิ่งขึ้น รมช.มนัญญา กล่าว
ปัจจุบันสมาชิกต้องการขยายฟาร์ม กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำมาให้บริการแก่สมาชิกด้วย ซึ่งการส่งเสริมอาชีพเสริมการเลี้ยงแพะมีฟาร์มแพะเข้าร่วม 28 ฟาร์ม ประกอบด้วย สมาชิกของสหกรณ์ จำนวน 23 ฟาร์ม และเกษตรกรเครือข่ายของสหกรณ์ จำนวน 5 ฟาร์ม ปัจจุบันมีสมาชิกผู้เลี้ยงแพะ จำนวน 28 คน มีแพะเลี้ยงรวม 1,774 ตัว
โอกาสนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเครื่องเวชภัณฑ์พันธุ์หญ้าเลี้ยงสัตว์ แก่สมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ ตลอดจนได้ให้อาหารแพะของสมาชิกสหกรณ์ พร้อมพบปะและให้กำลังใจ สมาชิกผู้เลี้ยงแพะของสหกรณ์ ณ บ้านโพธิ์แดน ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร