นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานตรวจสอบปริมาณน้ำนมโคทั้งระบบ โดยมีนายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า สืบเนื่องจาก
ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานตรวจสอบปริมาณน้ำนมโคทั้งระบบ และคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำนมโคระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำนมดิบ ณ ฟาร์มและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบทั่วประเทศ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการบริหารจัดการนมทั้งระบบ ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำนมโคทั้งระบบตั้งแต่วันที่ 25-29 มีนาคม 2567 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบสรุปผลการตรวจสอบปริมาณน้ำนมดิบที่ฟาร์มเกษตรกร จำนวน 2,821.86 ตัน ซึ่งจะนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ในวันพรุ่งนี้ (26 เมษายน 2567) เพื่อขอความเห็นชอบและใช้เป็นข้อมูลในการจัดสรรสิทธิโควตานมโรงเรียนให้ทันก่อนเปิดเทอม ปีการศึกษา 2567 นี้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบฯ ยังพบว่า เกษตรกรที่เลิกเลี้ยงโคนม มีสาเหตุหลายประการ อาทิ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ไม่มีผู้สืบทอดอาชีพหรือปรับเปลี่ยนอาชีพไปเป็นการเลี้ยงโคเนื้อแทน แต่ไม่ได้แจ้งยกเลิกและปรับปรุงข้อมูลกับปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมการและคณะทำงานฯ จะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงข้อมูล
ให้เป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งนำข้อมูลที่ได้รับจากระดับพื้นที่ มาเตรียมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อาทิ มาตรการ
ลดต้นทุนการผลิต การส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ เป็นต้น