นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและโรงงานแปรรูป ณ สหกรณ์โคขุนดอกคำใต้ จำกัด อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา โดยมี นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานส่วนจังหวัด รอต้อนรับในพื้นที่ สำหรับวันนี้ รมช. ไชยา ได้มารับทราบปัญหาการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ และให้กำลังใจ รวมถึงรับฟังข้อเรียกร้องของเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ให้เกษตรกีมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ในระยะเวลา 4 ปี
รัฐมนตรีช่วยฯ ไชยา กล่าวว่า วันนี้มารับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงแม่พันธุ์โคขุนของสหกรณ์โคขุนดอกคำใต้ จำกัด โดยรับทราบ 2 ประเด็น ประเด็นแรก สหกรณ์ฯ ได้ขอสินเชื่อจากโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย เป็นโครงการที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจชุมชนด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 โดยคงอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบันได้พ้นระยะแล้วดอกเบี้ยจึงปรับขึ้นถึงร้อยละ 8.125 ซึ่งไม่เพียงแต่สหกรณ์โคขุนดอกคำใต้ที่ได้รับผลกระทบ แต่กลุ่มเกษตรกรอื่น ๆ ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้จะนำเรียนในที่ประชุม ครม. ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป และประเด็นที่ 2 สถานการณ์ของสหกรณ์ฯ ที่ต้องการขอใช้พื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งกระบวนการที่สหกรณ์ฯ ต้องการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำจึงประสบปัญหาด้านการใช้พื้นที่ รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ยังไม่ได้รับการรับรองที่ต้องใช้การบูรณาการจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง รวมถึงกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ ในการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้มีโรงงานแปรรูปมีมาตรฐาน มีใบอนุญาต สามารถต่อยอดการค้านำสินค้าเข้าโมเดิร์นเทรดทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น
นอกจากนี้ รมช.ไชยา ขอให้กำลังพี่น้องเกษตรกรทุกภาคส่วน ที่กำลังประสบปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์มีราคาสูง ซึ่งได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ ที่อยู่ภายใต้กรมปศุสัตว์ สังกัดกระทรวงเกษตรฯ พัฒนาศูนย์ให้เป็นโมเดลให้กลุ่มเกษตรกรสามารถผลิตอาหารสัตว์ โดยปลูกแปลงหญ้า ข้าวโพด และถั่วเหลืองเอง เพื่อลดการนำเข้า ลดการพึ่งพาภาคเอกชน และสามารถทำอาหารสัตว์ไปจำหน่ายให้พี่น้องสหกรณ์ในราคาที่เหมาะสม ให้พี่น้องเกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ และมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย