เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไทยเตรียมส่งโคมีชีวิตไปเวียดนามทางเรือครั้งแรก ว่า กรมปศุสัตว์ได้รับรายงานเบื้องต้นจากกระทรวงต่างประเทศ ถึงผลการพิจารณาการส่งออกโคกระบือจากไทยไปเวียดนามโดยขนส่งทางเรือ โดยกรมสุขภาพสัตว์เวียดนาม (DAH ) อนุญาตให้ไทยส่งออกโคและกระบือทางทะเลได้โดยต้องส่งออกจากท่าเรือไทยที่ได้รับการตรวจเชื้อโรคและควบคุมอย่างเข้มงวดก่อนการส่งออก พร้อมให้การรับรองฟาร์มโคและกระบือปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย เพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ ชูชีพฟาร์ม เขียวขำเทรดดิ้ง2019 และอดิสรฟาร์ม88 รวมขณะนี้มีการรับรองฟาร์มที่มีการขึ้นทะเบียนเพื่อการส่งออกไปเวียดนามแล้วทั้งสิ้น 23 ฟาร์ม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเอกสารระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศและกรมปศุสัตว์
นายไชยากล่าวว่า ถือว่าเป็นข่าวดีของพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือ เป็นการขยายตลาดเพื่อการส่งออกและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งตนพยายามผลักดันเรื่องนี้มาตลอด นอกจากนั้น ยังได้มอบหมายกรมปศุสัตว์ใช้ศูนย์ผลิตอาหารของกรมเป็นฐานการผลิตหัวอาหารสัตว์เพื่อส่งจำหน่ายให้แก่กลุ่มสหกรณ์การเกษตร ทั้งโคเนื้อ โคนม สุกร เพื่อลดต้นทุนอาหารสัตว์ให้แก่เกษตรกร และเร่งพัฒนาโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้มีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสากลและสามารถส่งออกวัคซีนไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ รวมถึงจัดหาตลาดเพื่อรองรับปริมาณโคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรงเชือดชุมชน โรงเชือดเพื่อการส่งออกตามมาตรฐานสากล เพื่อรองรับตลาดโคเนื้อ ทั้งโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์โคชำแหละ โดยเฉพาะตลาดใหญ่คือประเทศจีน ประเทศตะวันออกกลางและเวียดนามที่มีกำลังซื้อสูง เป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศและเพิ่มมูลค่าสินค้าด้านปศุสัตว์ของไทย