นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยผลการประชุมของคณะกรรมาธิการฯ ในวันนี้ (14 ธ.ค.) ที่มีการเชิญตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาพูดคุยถึงผลกระทบจากการมีเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาภายในประเทศ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว รวมถึงยังได้เชิญกรมสอบสวยคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาซักถาม เพื่อการเสนอความเห็น และเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อขยายผลตัวผู้กระทำผิด ทั้งนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มนายทุน
โดยนายศักดินัย ยืนยันว่า ปัญหาหมูเถื่อน เมื่อลงลึกในรายละเอียด พบว่า เป็นขบวนการใหญ่ มีผลประโยชน์มหาศาลพัวพันทั้งนักการเมือง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ และนายทุน ซึ่งดีเอสไอ ย้ำแล้วว่า จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยยืนยันว่า การโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการตรวจสอบ และคาดว่า ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 สังคมจะได้เห็นว่า ข้าราชการคนใดมีส่วนที่เกี่ยวข้อง
นายศักดินัย ยังเปิดเผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) กรรมาธิการฯ จะมีการลงพื้นที่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อติดตามขั้นตอนการนำเข้า และตรวจสอบสินค้า ทั้งการทำงานของกรมศุลากร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ รวมถึงจะมีการติดตามกระบวนการทำลายซากหมู ที่กรรมาธิการฯ ให้ความสนใจ เพราะยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่า มีการทำลายครั้งสุดท้ายที่ใด เมื่อใด เพราะตามขั้นตอน จะต้องมีการทำลายอย่างเปิดเผยตามที่กฎหมายระบุ ซึ่งกรรมาธิการฯ จะช่วยเป็นหูเป็นตา เพื่อให้มีการดำเนินการตรวจสอบต่อเนื่องจนข้อเท็จจริงปรากฏ และไม่ให้มีเนื้อหมูเถื่อนลักลอบเข้ามาภายในประเทศอีก
ด้าน นายณรงค์เดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ รองประธานกรรมาธิการฯ ยังขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร ที่ขอให้ตรวจสอบ และปรับปรุง National Single Window ที่ให้ผู้ส่งสินค้ากรอกข้อมูล โดยสามารถกรอกข้อมูลเท็จ อันเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการได้ และยังได้เรียกเอกสารเกี่ยวกับสายเรือของสินค้าที่มีกระบวนการนำเข้า ซึ่งจนขณะนี้ ยังไม่มีการส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้, กรมประมง พบว่า จะต้องมีการสุ่มตรวจสอบสินค้าว่า มีการปมเปื้อนหรือไม่ แต่ในการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนนั้น มีการแจ้งสินค้าเป็นเท็จว่า เป็นปลา ดังนั้น กรมประมง ควรจะต้องถ่ายรูปสินค้า และเก็บตัวอย่างตรวจสอบสารตกค้าง แต่เบื้องต้น กรมประมง ก็ยังไม่ได้มอบข้อมูลให้พนักงานสอบสวน รวมถึงการขยายผล ที่มีการสวมหมูเถื่อน ให้เป็นหมูถูกกฎหมายโดยมีใบรับรองผ่านระบบของกรมปศุสัตว์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ไม่ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป
