วันที่ 8 ธ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำคลิปหลักฐานพร้อมเอกสารการกรรโชกทรัพย์ผู้รับเหมาในการแอบอ้างผู้ใหญ่ในการฝังกลบหมู 161 ตู้ ที่สัตหีบ และ สระแก้ว ให้ดำเนินคดีกับนายมานพ อดีตนักข่าวฯ และนายชาญณรงค์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ได้รับการร้องเรียนจากกรมปศุสัตว์ในการฝังหมูโดยมีการเรียกรับเงินจากสายการเดินเรือโดยอ้างนำมาให้กรมปศุสัตว์เป็นค่าฝังกลบ มอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป.ป.ป.
อัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ จังหวัดสระแก้วว่ามีการนำหมูเถื่อน 161 ตู้พื้นที่ของจังหวัดสระแก้วและสัตหีบปรากฏว่ามีการร้องเรียนว่านายชาญณรงค์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับนายมานพซึ่งเป็นนักข่าวอิสระ อดีตนักข่าวอิศรา โดยทั้งสองได้มีการเข้าไปแทรกแซง และก็มีการเรียกรับผลประโยชน์และมีการแก้ไขสัญญาผู้รับเหมาที่มีการฝังหมูเถื่อน ในค่ายทหารของอำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี
ซึ่งในคดีนี้ตนก็ได้รับทราบว่าได้มีการร้องเรียนจากเจ้าของสายการเดินเรือ จำนวนมากกว่า 10 สายการเดินเรือว่ามีค่าใช้จ่ายในการฝังกลบหมูแล้วก็จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ทางเจ้าของสายการเดินเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการดำเนินคดีจำนวน 161 ตู้เอาแต่กลับไปให้คนอื่นเช่าได้แต่ต้องมีค่าดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสายการเดินเรือ ซึ่งมูลค่าจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านบาท
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตนทราบจากอธิบดีกรมว่าเงิน 12 ล้านบาททางกรมไม่เคยได้รับเงินจากนายชาญณรงค์หรือผู้ประกอบการจากสายการเดินเรือแต่อย่างใดซึ่งทั้งสิ้นในการที่มีการดำเนินการผู้รับเหมาก็คิดค่าใช้จ่าย 5 ล้านบาทแล้ว และทางกรมทหารเรือที่สัตหีบให้ทราบว่าให้นายมานพเป็นผู้ดำเนินกับนายชาญณรงค์และวันนี้ก็มีคลิปเสียงที่ทางบริษัทได้มีการบันทึกเสียงของนายมานพซึ่งเป็นตัวแทนของนายชาญณรงค์ แล้วก็มีการบันทึกเสียงนายชาญณรงค์ที่เรื่องราวทั้งหมดและประวัติตามไฟล์วิดีโอที่นำมามอบให้แล้วก็มีหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษให้กรรมการสอบนายชาญณรงค์ในเรื่องที่มีการแทรกแซงเรื่องของการทำลายหมูของกลางจำนวน161 ตู้ แล้วก็มีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการทั้งหมด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป.รับหนังสือและคลิปเสียงดังกล่าวไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้แถลง ความคืบหน้าการทำคดีสำคัญ โดยตอนหนึ่ง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตอบคำถามสื่อ กรณีนายอัจจฉริยะ ร้องกองปราบ มีดีเอสไอ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ร่วมกับอดีตสื่อมวลชนสองราย รับเงินจากบริษัทเดินเรือ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับว่า เพิ่งได้รับข้อมูล และจะดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับตลอดเวลา
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ แถลงว่า จากการตรวจสอบห้องเย็นที่สอง นครปฐม เป็นความผิดไม่มีใบอนุญาต มีปริมาณหมูหายไป หลายสิบตัน ขณะนี้ ปศุสัตว์นครปฐมเร่งตรวจสอบ และจะรายงานพนักงานสอบ
พร้อมบอกด้วยว่า ห้องเย็นที่สองเป็นห้องที่สร้างขึ้นใหม่กลางปี 65 มีใบซีร็อกเคลื่อนย้ายถึงสามชุด อยู่ที่ปศุสัตว์นครปฐมตรวจสอบอยู่ ส่วนที่ระบุว่า จำนวนที่หาย 55 ตัน ยังไม่แน่นอน ในห้องเย็นนั้นพบเนื้อสุกร หลายประเภท ที่เจอเมื่อวาน 61 ตัน
สำหรับเส้นทางการเงิน จากที่สายข่าวได้รับรายงานพยานที่เราคุ้มครองพยาน จะออกหมายเรียกอีกสี่คน มีการโอนเงินมาที่บริษัทเอกชน โดยเริ่มต้นมีคนโอนเงินเข้ากลุ่มนครปฐม 10-100 ล้าน จากนครปฐม โอนให้สองพ่อลูก สองพ่อลูกโอนให้ บริษัทเอกชน และจ่ายให้ต่างประเทศ นำหมูเข้ามา
“เรื่องคดีหมู นายกฯต้องการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และรมว.ยุติธรรม อยากให้ถอดบทเรียน ว่า มีช่องทางไหน ที่ทำให้เกิดการทุจริตได้ง่าย ส่วนหนึ่งจะทำรายงานเสนอ รมว.ยุติธรรม พิจารณาเพื่อนำเสนอนายกฯ ว่า วิธีการตอนไหนเป็นช่องว่างให้เกิดการทุจริต ที่นอกเหนือวิธีการดำเนินคดีอาญา” พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าว