มีต้นไม้หลายชนิดที่สามารถช่วยดูดซับสารพิษจากอากาศ ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ ซึ่งในงานวิจัยได้คัดเลือกพืชหลายชนิดที่สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านได้และนอกบ้าน และเป็นต้นไม้พื้นถิ่นในเขตร้อนที่สามารถปลูกได้ดีในเมืองไทย เพื่อนำมาทดสอบประสิทธิภาพการบำบัดฝุ่นละออง PM 2.5 พบว่ามีพืชที่สามารถบำบัดฝุ่นละอองในอากาศได้ดี ได้แก่ พรมกำมะหยี่ เฟินขนนก คล้าแววมยุรา พลูปีกนก พลูอินโด กวักมรกต คล้ากาเหว่าลาย และคล้านกยูง โดยลักษณะพืชที่สามารถบำบัดฝุ่นละอองได้ดีใบจะมีลักษณะขรุขระ มีขน มีใบย่อยขนาดเล็ก และมีลักษณะผิวใบมันเคลือบด้วยแว๊กซ์
1.พรมกำมะหยี่ (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Episcia cupreata (Hook.) Hanst) เป็นพืชท้องถิ่นในโคลอมเบีย เวเนซุเอลาและบราซิล ใบย่น สีน้ำตาลแดง เส้นใบสีเทาเงิน ดอกสีแดง รูปกรวย แบ่งย่อยได้หลายสายพันธุ์ นิยมปลูกเป็นไม้คลุมดินหรือปลูกในกระถางแขวน
2.เฟินขนนก เป็นต้นไม้ตระกูลเดียวกันกับต้นเฟินบอสตัน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า (Nephrolepis Exaltata CV. Whitmanii) ต้นเฟินขนนกเป็นต้นไม้ที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มาจากต้นเฟินบอสตัน ไม่ได้เป็นพันธุ์ไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้นเฟินบอสตันมีความแตกต่างจากต้นเฟินขนนกในส่วนที่ใบของต้นเฟินบอสตันมีใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว
ส่วนใบของต้นเฟินขนนก มีใบประกอบแบบขนนกสองชั้น หลังใบของต้นเฟินขนนกจะมีสปอร์เป็นรูปใบ มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล ขอบใบหยิก ทรงพุ่มแผ่กว้าง สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแบ่งกอ
3.พลูปีกนก พบครั้งแรกที่ประเทศเปรู ประเทศเวเนซูเอล่า ทวีปอเมริกาใต้ และในปัจจุบันต้นพลูปีกนกก็สามารถปลูกได้ในหลายประเทศทั่วโลกที่มีอากาศชื้นร้อน โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการกระจายพันธุ์ไปยัง ฮาวาย ประเทศเซเชลส์ หมู่เกาะโซไซเอตี
ต้นพลูปีกนกเป็นต้นไม้ประเภทไม้เลื้อย สามารถมีอายุอยู่ได้หลายปีขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู ลักษณะลำต้นเล็กรูปทรงกระบอก จะมีข้อปล้อง และมีรากออกตามข้อปล้องนั้น
4.คล้ากาเหว่าลาย เป็นพันธุ์ไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล เป็นต้นไม้ล้มลุกอายุหลายปี เจริญเป็นกอ สูง 30-45 เซนติเมตร ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า แตกหน่อ ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปแถบกว้าง กว้างประมาณ 5-5.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลม โคนมน ขอบเป็นคลื่น แผ่นใบหนาเป็นมัน ด้านบนสีเขียวอ่อนอมเหลือง รอยนูนเป็นคลื่น มีลายรูปรีเรียวและจุดสีเขียวเข้มตามรอยนูนสลับกันทั้งสองด้าน ขอบใบขลิบสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีม่วงแดง ก้านใบกลม สีเขียวเข้ม รอยต่อกับแผ่นใบสีม่วงแดง
5. คล้าแววมยุรา เป็นพันธุ์ไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกของประเทศบราซิล เป็นพืชล้มลุกสูง 25-35 เซนติเมตร พุ่มค่อนข้างแน่น มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ส่วนใบรูปรีกว้าง ปลายแหลม ขอบเรียบ ด้านบนสีเขียวอ่อน มีลายแต้ม รูปรีปลายมน หรือกลม ทั้งเล็กและใหญ่ สีเขียวเข้ม สลับเรียงกัน ขอบใบขลิบเขียวเข้ม ใต้ใบสีเขียวอมเทา หรือสีม่วงแดง ก้านใบกลมสีม่วงแดง ห่อหุ้มกันเป็นชั้น
6.พลูอินโด เป็นพันธุ์ไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้นไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นทอดเลื้อย ทรงกระบอก มีรากสั้น ๆ ตามข้อปล้องสำหรับยึดเกาะ ใบเดี่ยว เรียงเวียนถี่ รูปรี ปลายแหลม โคนเว้าเล็กน้อย ขอบเรียบ แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม เป็นมัน ด้านล่างสีแดงม่วง ก้านใบสีเขียวปนแดง
ต้น ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นทอดเลื้อย ทรงกระบอก มีรากสั้นๆ ตามข้อปล้องสำหรับยึดเกาะ
ใบ ใบเดี่ยว เรียงเวียนถี่ รูปรี ปลายแหลม โคนเว้าเล็กน้อย ขอบเรียบ แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม เป็นมัน ด้านล่างสีแดงม่วง ก้านใบสีเขียวปนแดง
7.คล้านกยูง เป็นพันธุ์ไม้จำพวกคล้าซึ่งเป็นไม้ใบประดับที่มีลวดลายบนใบสวยงาม เส้นลายสีเข้มบนใบสีเขียว หรือม่วงอมเขียว ดูเหมือนหางนกยูงจึงเป็นที่มาของชื่อคล้านกยูง
คล้านกยูงเป็นพรรณไม้ที่มีหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตเป็นกอหรือพุ่มเตี้ย ลำต้นเป็นไม้อวบน้ำในเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ออกใบเป็นกาบหุ้มลำต้นสลับกัน และมีก้านใบต่อกับแผ่นใบ ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่ ปลายใบเว้าหรือแหลม ใบด้านหน้าสีเขียวสลับลายเขียวแก่หรือม่วง ส่วนหลังสีเขียวอมแดงหรือม่วง ออกดอกที่ปลายยอด หรือตามซอกกาบใบ ออกดอกเป็นคู่ ลักษณะดอกเล็กรวมกันเป็นช่อ
8.กวักมรกต เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Zamioculcas zamiifolia (Lodd.) Engl. จัดอยู่ในวงศ์ Araceae เป็นไม้อวบน้ำ ลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินมีสีน้ำตาลอ่อน ลักษณะใบสีเขียวเป็นมัน มีใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยรูปไข่โคนมน และปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบ หนา และอวบน้ำ มีดอกออกเป็นช่อ คล้ายดอกหน้าวัว สีเหลืองนวลแกมเขียวอ่อน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหัว ชำต้น และชำใบ เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม
เนื่องจากกวักมรกตเป็นพื้ชที่ดูแลง่าย สามารถปลูกในห้อง ในที่ร่ม และเลี้ยงแบบชำน้ำได้ อีกทั้งยังเป็นไม้ฟอกอากาศ และไม้มงคล ที่มีความสวยงามโดดเด่นทั้งใบเขียว ใบดำ และใบด่าง จึงทำให้กวักมรกตเป็นไม้ที่นิยมปลูกกันในช่วงที่ผ่านมา