“อาร์ติโชค” เป็นพืชที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ เป็นสมาชิกในวงศ์เดียวกับดอกทานตะวัน เบญจมาศ และดาวเรือง ส่วนที่เรานำมารับประทานนั้นแตกต่างจากผักทั่วไป เพราะเป็นส่วนของดอกตูมที่ยังไม่บาน ซึ่งประกอบด้วยกลีบเลี้ยงหนาด้านนอกและช่อดอกย่อยที่อัดแน่นอยู่ด้านใน เราสามารถรับประทานได้สองส่วนหลัก คือเนื้อนุ่มที่อยู่ที่โคนของกลีบเลี้ยงด้านใน และส่วนฐานดอกซึ่งเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด ส่วนตรงกลางของดอกตูมจะมีกลุ่มดอกย่อยอ่อนๆ อัดแน่นอยู่ เรียกว่า “ขนดอก” หรือ “เครา” ซึ่งในดอกที่แก่และมีขนาดใหญ่ ส่วนนี้จะแข็งและรับประทานไม่ได้
“อาร์ติโชค” มีถิ่นกำเนิดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกาเหนือ เป็นพืชที่มีประวัติการเพาะปลูกมายาวนานนับพันปี โดยชาวโรมันและกรีกโบราณนิยมปลูกเพื่อใช้เป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพร ปัจจุบันมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศที่มีอากาศอบอุ่นและดินอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส สเปน และสหรัฐอเมริกา ความพิเศษของ”อาร์ติโชค”อยู่ที่การปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย แม้จะชอบอากาศอบอุ่น แต่ก็สามารถทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ในระดับหนึ่ง
เครดิตภาพ: Globe Artichoke – Green Globe โดย Richard Hoare | Wikimedia Commons | CC BY-SA 2.0
ต้นอาร์ติโชค มีลักษณะที่โดดเด่นและสวยงาม มีลำต้นสูงประมาณ 1.4-2 เมตร ใบมีขนาดใหญ่ยาวได้ถึง 1 เมตร มีสีเขียวเงินวาว ขอบใบหยักลึกเป็นฟันเลื่อย เรียงตัวเป็นพุ่มสวยงามคล้ายกุหลาบ ใบเหล่านี้จะมีอายุเพียงปีเดียวและจะร่วงหลุดทุกปีหลังจากดอกบาน แต่ละต้นจะให้ดอกตูมขนาดใหญ่ประมาณ 3-5 ดอก ซึ่งถ้าปล่อยให้บานจะเห็นดอกย่อยสีม่วงสวยงามจำนวนมาก ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อให้มาตอมดอก ทำให้สวนมีชีวิตชีวามากขึ้น
“อาร์ติโชค” เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีคุณภาพดี ระบายน้ำได้ดี และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ต้องให้น้ำสม่ำเสมอ ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป และต้องเติมปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะไนโตรเจนและโพแทสเซียม เมื่อต้นพืชมีอายุประมาณ 4-8 ปี คุณภาพของดอกจะเริ่มลดลง กลุ่มใบที่เรียงตัวกันจะเริ่มแน่นขึ้น ทำให้ดอกมีขนาดเล็กลง เกษตรกรจึงต้องปลูกต้นใหม่โดยการแยกหน่อที่แตกรากแล้ว
” อาร์ติโชค” มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งวิตามินซี วิตามินเค โฟเลต และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม
นอกจากนี้ยังมีใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สารต้านอนุมูลอิสระในอาร์ติโชคช่วยต่อต้านการอักเสบและชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย มีการศึกษาพบว่าสารสกัดจากใบอาร์ติโชคมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงตับและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ การเก็บเกี่ยวควรเก็บเกี่ยวในตอนเช้าตรู่ขณะที่อากาศยังเย็น โดยตัดก้านดอกให้เหลือติดกับหัวประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร
“อาร์ติโชค”ที่เก็บเกี่ยวแล้วสามารถเก็บรักษาได้นานถึงสองสัปดาห์ในตู้เย็น โดยควรห่อด้วยถุงพลาสติกที่เจาะรูระบายอากาศ การเลือกซื้อควรเลือกดอกที่มีกลีบแน่น สีสดใส น้ำหนักดี และไม่มีรอยช้ำหรือดำ ดอกขนาดเล็กถึงกลางมักจะมีรสชาติดี นอกจากการนำมารับประทานแล้ว “อาร์ติโชค”ยังเป็นไม้ประดับที่สวยงาม ด้วยใบใหญ่สีเขียวเงินและดอกสีม่วงขนาดใหญ่ จึงมีผู้นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวนดอกไม้ล้มลุก เหมาะสำหรับจัดสวนแบบเมดิเตอร์เรเนียนหรือสวนครัวสวยๆ ที่ผสมผสานความสวยงามเข้ากับประโยชน์ใช้สอย นับเป็นพืชที่มีคุณค่าทั้งด้านอาหาร สุขภาพ และความงาม ที่น่าสนไม่น้อยเลยทีเดียว