“ติ๊ก” – นางสาวปวณี เขียวจันทร์ อายุ 35 ปี เกษตรกรรุ่นใหม่จากพื้นที่บ้านละโพ๊ะ ตำบลป่าไร่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี บอกว่า “ไก่ไข่” พันธุ์ไฮบริด นิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน เพราะพันธุ์ดังกล่าวเกิดจากการผสมพันธุ์ของไก่ไข่พันธุ์แท้ที่พัฒนาสายพันธุ์จนถึงขีดสุด ทำให้ไก่ที่ได้ไข่ดก ฟองใหญ่และทนต่อโรคมากกว่าพันธุ์ลูกผสมธรรมดา
เธอเล่าอีกว่า แรกเริ่มเลี้ยงด้วยหัวอาหารสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว กระทั่งปี 2560 เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของปิดทองหลังพระฯ เข้ามาส่งเสริมกลุ่มอาชีพด้านต่าง ๆ แนะนำวิธีการเลี้ยง “ไก่ไข่แบบลดต้นทุน” จึงได้ทดลองทำ ปรากฏว่าสามารถลดต้นทุนได้จริง
จากเดิมต้นทุนค่าอาหารสัตว์ต่อจำนวนไก่ 100 ตัว อยู่ที่ 11,250 บาท หักลบได้กำไรเพียง 500-1000 ต่อเดือน ขนาดไข่ที่ได้น้ำหนักเพียง 61-65 กรัม (เบอร์ 2) ไข่เล็ก ปรับราคาขึ้นไม่ได้
แต่ปัจจุบันหลังเลี้ยงแบบ “อาหารลดต้นทุน” จำนวนไก่ที่มีตอนนี้ 700 ตัว ต้นทุนค่าอาหารสัตว์เพียง 8,500 บาท สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000-17,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งไก่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ไวต่อโรค แม้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย,ไข่ไก่ฟองโตน้ำหนักอยู่ที่ 85-90 กรัม (เบอร์ 0), ไข่แดงใหญ่ นูน สีสดเปลือกมันวาว เก็บได้นานกว่า 2 สัปดาห์ในอุณหภูมิห้อง และสามารถต่อรองราคากับตลาดได้ เพราะไข่ที่ได้มีความแตกต่างจากไข่ฟาร์มที่เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป
ช่วงแรกยังไม่มั่นใจกับ ” มูลนิธิปิดทองฯ” ว่าลดต้นทุนจะได้รายได้ดี เพราะเชื่อว่าไก่ถ้าไม่กินสำเร็จรูปจะไม่ไข่ แต่พอ “ปิดทองฯ” มาอธิบายวิธีการลดต้นทุนแล้ว มองว่าไม่ยาก เลยลองทำดู ควบคู่กับการทำบัญชีเทียบ ปรากฏว่าทำได้จริง รายได้โอเคด้วย ก็เลยเหมือนเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่ว่าขั้นตอนการเลี้ยงแบบลดต้นทุนทำได้จริง และราคาได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ปัจจุบันรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก 13 ราย กลุ่มไก่ไข่ลดต้นทุน เพราะอำนาจการต่อรอง ก็จะมากกว่าเมื่อมีกลุ่มส่งขายออนไลน์-ตลาดและหน่วยงานต่าง ๆ ในปัตตานี เน้นเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ อนาคตสมาชิกจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะมองว่ารายได้การเลี้ยงไก่ของเราเป็นแรงจูงใจและแสดงให้เห็นว่าทำได้จริง
ล่าสุดช่วงปีใหม่ กลุ่มมีการจัดกระเช้ารักสุขภาพ โดยวัตถุดิบเป็นสินค้าปลอดภัยจากชุมชนทั้งหมด ผักจากเกษตรแปลงรวมละโพ๊ะ ไข่จากกลุ่มไข่ลดต้นทุน ข้าวสารจากนาโยนแปลงใหญ่ ตะกร้ากลุ่มจักสาน ราคาเริ่มต้น 299 บาท ” ปวณี กล่าว
สำหรับ “สูตรอาหารลดต้นทุน’ วัตถุดิบที่นำมาทำ จะประกอบด้วยสิ่งที่สามารถปลูกเองได้ และมีอยู่ในไร่นา เช่น ข้าวโพด ผักสด ต้นกล้วย เป็นต้น โดยในส่วนของสูตรอาหาร “ไก่ไข่แบบลดต้นทุน” ปิดทองหลังพระฯ แนะนำสูตรอาหารผสมเองแบบธรรมชาติ ใช้สำหรับการเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ไฮบริด วัตถุดิบประกอบด้วย 1.หยวกกล้วยสับละเอียด 30 กิโลกรัม 2.รำข้าวบดละเอียด 6 กิโลกรัม 3.ปลายข้าวต้ม 2 กิโลกรัม 4.เมล็ดข้าวโพดบด 2 กิโลกรัม โดยวิธีการนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกันและนำไปให้ไก่กิน
โดยใช้หลักการว่า ควรใช้ให้หมดภายใน 1 วัน แล้วดำเนินการผสมใหม่ เพื่อให้ได้อาหารที่ใหม่เสมอทั้งนี้สูตรอาหารไก่ไข่แบบลดต้นทุนดังกล่าวเป็นสัดส่วนต่อไก่ไข่ 100 ตัว
นอกจากนี้การให้อาหารแต่ละช่วงอายุของไก่ก็มีความสำคัญ โดยช่วงอายุ 16-18 สัปดาห์ ในช่วงเช้าแนะนำให้อาหารสำเร็จรูปและค่อยมาให้อาหารลดต้นทุนในช่วงเย็นตามสูตรด้านบนที่กล่าว ให้แบบนี้ไปประมาณ 3-4 เดือน
หลังจากนั้นเมื่อไก่เริ่มเป็นสาวสามารถให้ไข่ได้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ให้เริ่มให้อาหารแบบ ลดต้นทุนแบบทุกมื้อหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นได้เลย ขณะที่ช่วงไก่ผลัดขน แนะนำให้อาหารลดต้นทุนตามปกติ แต่ช่วงเที่ยงให้เสริมด้วยผักตำลึง ใบมันสำปะหลัง ใบตอง หรือมะละกอ สัดส่วน 1-2 กิโลกรัมต่ออย่างเพื่อช่วยกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตขน บำรุงร่างกายให้แข็งแรงกลับมาไข่ได้ไว
ทั้งนี้สูตรดังกล่าวเป็นสัดส่วนต่อไก่ไข่ 100 ตัว และในช่วงโควิด-19 ระบาดแนะนำสูตรอาหาร “สมุนไพรต้านโรคไก่” นำฟ้าทะลายโจร 1-2 กิโลกรัมบดละเอียดละลายในน้ำ 500 ลิตร จากนั้นนำผสมกับน้ำ 2 ลิตร หรือผสมกับอาหารลดต้นทุน ในปริมาณมื้อละ 5-10 ซีซี เพื่อแก้โรคหวัด ตาบวม แก้โรคนิวคัสเซิลไก่เป็นการให้เพื่อแบบป้องกัน ในช่วงที่เห็นว่าสภาพอากาศ เปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาถ้าเลี้ยงแบบลดต้นทุน ไก่จะไม่เป็นโรค
อย่างไรก็ดี ปวณี กล่าวย้ำว่าหากต้องการ จะเลี้ยงแป็นรายได้เสริม แนะนำเลี้ยง 100 ตัวขึ้นไป ล่าสุดก่อนโควิด-19 ราคาไก่ขายที่ 185 บาท ปัจจุบันช่วงโควิด-19 ขายได้ 200 บาท ซึ่งก็จะเป็นเงินต้นที่ 20,000 บาท คิดรวมกับอาหารต้นทุน พื้นฐานประมาณ 7,000-8,000 บาท ซึ่งอาหารที่ได้จะใช้ได้คาบเกี่ยวนานกว่า 2 เดือน
ดังนั้นหากผู้ใดสนใจที่จะเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม เห็นว่าต้นทุน 30,000 บาทโดยประมาณเอาอยู่ ซึ่งหากไม่มีอะไรเลย ไม่มีคอก มองว่าต้นทุนติดตัวควรอยู่ที่ 50,000 บาท แต่หากเล็งเป็นอาชีพหลัก แนะนำเลี้ยงไก่ 500 ตัวขึ้นไป
ที่มา -มูลนิธิปิดทองหลังพระ