“ลองกองตันหยงมัส” (Longkong Tanyougmat) หมายถึง ลองกองพันธุ์พื้นเมือง ผลอ่อนเปลือกจะเป็นสีเขียว เมื่อผลสุกผวเปลือกจะเป็นสีเหลือง เปลือกจะไม่มียาง เปลือกล่อนออกจากเนื้อได้ง่าย รูปทรงเหมือนหยดน้ำ เนื้อใสหอมหวาน มีเมล็ดน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศให้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( GI )”ลองกองตันหยงมัส” เมื่อ 27 ธันวาคม 2559
การปลูก
(1) ปลูกได้ทั้งพื้นที่ดอนและที่ราบ กรณีพื้นที่ดอนจะมีการไถพรวนและปรับพื้นที่ กรณีเป็นพื้นที่ราบอยู่แล้วจะไถกำจัดวัชพืชอย่างเดียว แล้วตากดินทิ้งไว้ 10 – 15 วัน
(2) ต้นกล้าที่นำมาปลูกลงแปลง ควรมีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป อยู่ในสภาพที่แข็งแรง ระบบรากดี ไม่คดงอในถุง หรือถ้าใช้ต้นกล้าขนาดใหญ่ให้ตัดดินและรากที่ขดหรือพันบริเวณก้นถุงออก และต้องมีใบยอดคู่สุดท้ายแก่เต็มที่ ก่อนปลูกควรเตรียมต้นกล้าให้พร้อมกับสภาพแวดล้อม โดยค่อยงดน้ำและปุ๋ย พร้อมกับค่อยๆ เพิ่มแสงให้มากขึ้นทีละน้อย
(3) หลุมปลูกมีขนาดกว้างและลึกด้านละ 50 เซนติเมตร จากนั้นนำปุ๋ยคอกเก่าและปุ๋ยหินฟอสเฟตคลุกเคล้ากับดิน แล้วกลบกลับคืนในหลุมสูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
(4) ปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 6X 8 เมตร หรือ 8 x 8 เมตร
การดูแลรักษา
(1) การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงเจริญทางใบ และงดให้น้ำช่วงต้นฝน
(2) การให้ปุ๋ยยควรใช้ปุ๋ยดอกควบคู่กับปุ๋ยเคมี ปริมาณการใส่ขึ้นอยู่กับอายุและขนาดของต้นลองกองโดยยึดหลักใส่น้อยแต่บ่อยครั้ง
การเก็บเกี่ยว
(1) สีผลเปลือกจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเขียวอมเหลือง และสีเหลืองมากขึ้น ระยะที่เหมาะสมคือหลังจากผลเริ่มเปลี่ยนสี 15 – 25 วัน
(2) วิธีการเก็บเกี่ยว ควรใช้กรรไกรตัดช่อผลที่ละช่อ และทำการตัดแต่งกิ่งช่อโดยปลิดเอาผลเน่าออกจากช่อ
ลักษณะภูมิประเทศ
จังหวัดนราธิวาร มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นป่าและภูเขา พื้นที่ราบส่วนใหญ่ติดกับบริเวณอ่าวไทย ลักษณะภูมิอากาศเป็นมรสุมเขตร้อน (แบบร้อนขึ้น) แบ่งออกเป็น 2 ฤดู คือ ฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพัดเอาความชื้นจากทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียเข้ามา ทำให้ฝนตกชุก และฤดูร้อนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนที่พัดมาจากทะเลจีนใต้ ทำให้อากาศทั่วไปร้อนและชื้น ปริมาณน้ำฝน 2,000 – 3,000 มิลลิเมตรต่อปี อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 – 35 องศาเซลเซียส ความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง 70 -80% ดินเป็นดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์วัตถุค่อนข้างสูง ด้วยสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่มีความชื้นสูง และมีปริมาณฝนมาก ทำให้ ลองกองตันหยงมัส มีเนื้อแห้งแตกต่างจากการปลูกในพื้นที่อื่น
ประวัติความเป็นมา
เริ่มแรกได้มีการนำลองกองมาปลูกที่บ้านชีโป หมู่ที่ 3 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จากนั้นได้ขยายพันธุ์มาปลูกในพื้นที่ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ พัฒนาสายพันธุ์จนเป็นที่ยอมรับด้านรสชาติดวามอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ ตลาดกลางผลไม้ตันหยงมัส ตั้งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอระแงะ จัดเป็นศูนย์กลางซื้อขายลองกองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นแหล่งผลิตลองกองที่ให้ผลผลิตดีที่สุดของจังหวัดนราธิวาส