“ส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร “เป็นส้มโอพันธุ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเขตภาคเหนือ ทั้งด้านคุณภาพของรสชาติ และกิ่งพันธุ์ ส้มโอท่าข่อยปลูกครั้งแรกที่บ้านท่าข่อย ตำบลเมืองเก่า เมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ไปปลูกที่อำเภอโพธิ์ประทับช้างและได้ผลดี ปัจจุบันมีการ ขยายพื้นที่ปลูกออกไปตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดพิจิตร ส้มโอท่าข่อยเป็นที่นิยมบริโภคของบุคคลทั่วไป เพราะมีรสหวานและเปรี้ยวกลมกลืนกัน มีเนื้อละเอียดแบบเนื้อกุ้ง มีน้ำฉ่ำและไม่มีเมล็ด โดยทั่วไปจะมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน
เป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นที่ถูกบันทึกอยู่ในคำขวัญ จังหวัดพิจิตร คือ เมืองชาละวัน แข่งขันเรือยาว ข้าวเจ้าอร่อย ส้มท่าข่อยรสเด็ด หลวงพ่อเพชรรวมใจ บึงสีไฟลือเลื่อง ยอดพระเครื่องหลวงพ่อเงิน
การปลูก
(1) สภาพพื้นที่ “ส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร” สามารถเจริญเติบโตได้ดีและผลิตได้ในพื้นที่ ดังนี้
1.1 ปลูกได้ทั้งที่ดอนหรือที่ลุ่มที่ไม่มีน้ำขัง
1.2 ควรมีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 400 เมตร
1.3 ความลาดเอียงของพื้นที่ไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์
1.4 ไม่ห่างไกลจากแหล่งน้ำชลประทานหรือน้ำธรรมชาติ
1.5 มีแสงแดดจัด
(2) ลักษณะพื้นที่ปลูก
2.1 เป็นดินร่วนเหนียวหรือดินร่วนปนทราย การระบายน้ำดี
2.2 ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน 5.5 – 6.5
2.3 ในพื้นที่ลุ่ม ปลูกแบบยกร่องบนสันดิน กว้าง 6 – 8 เมตร ระหว่างร่องกว้าง 1 เมตร ลึก 1 เมตร ระยะปลูก 8 x 6 เมตร ยกร่องในแนวทิศเหนือ – ใต้
2.4 ในพื้นที่ดอน ระยะปลูก 6 x 6 เมตร หรือ 8 x 8 เมตร หรือตามความเหมาะสมของพื้นที่
การเก็บเกี่ยว
(1) ระยะเก็บผลผลิตที่เหมาะสมหลังจากดอกบานในช่วง 7 – 7.5 เดือน ซึ่งเป็นระยะที่ส้มโอมีปริมาณน้ำตาลเพิ่มสูงสด โดยสังเกตจากต่อมน้ำมันหรือนวลบนผิวเปลือก การเก็บเกี่ยวส้มโอเพื่อการส่งออกต่างประเทศจะเก็บที่ความแก่ประมาณร้อยละ 70 ในขณะที่ผลยังมีปริมาณกรดค่อนข้างสูง