พลิกปูม “แพทองธาร ชินวัตร ” ว่าที่นายกฯ คนที่ 31 ประเทศไทย

ประวัติของ น.ส.แพทองธาร นั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา โดย “แพทองธาร” ถือเป็นทายาทตระกูลชินวัตร คนสำคัญ โดยเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร

ในวัย 36 ปี “น.ส.แพทองธาร” เข้าสู่แวดวงการเมือง โดยรับอาสาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำทัพพรรคเพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้งทำให้พรรคฯคว้าเก้าอี้ สส.มาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวน สส.รวม 141 ที่นั่งในการเลือกตั้งปี 2566

การที่สภาโหวตเห็นชอบให้ “แพทองธาร” เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ส่งผลให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯคนที่ 4 ของตระกูล นับตั้งแต่ “บิดา” อดีตนายกทักษิณ, “อาปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ “อาเขย” สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเป็นนายกฯคนที่ 31 ของประเทศ

“แพทองธาร” จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย “แพทองธาร” เจอข้อครหากรณี “ข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว” ขณะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ และในภายหลังได้สอบเข้าคณะรัฐศาสตร์ฯเรียนสาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

เมื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี แพทองธาร ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ ในประเทศอังกฤษ เรียนสาขาวิชา Msc International Hotel Management และกลับมาทำธุรกิจของครอบครัว โดยเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 บ.เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการมูลนิธิไทยคม

และเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการอื่น ๆ เช่น โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ, เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ และเดอะ ซิสเตอร์ส เนลส์ แอนด์ มอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2565 เธอถือหุ้นรวมทั้งหมด 21 บริษัท มูลค่าประมาณ 68,000 ล้านบาท

สำหรับชีวิตครอบครัว แพทองธาร สมรสกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ มีบุตรสาว 1 คน คือ ธิธาร สุขสวัสดิ์ และมีบุตรชาย 1 คน พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์

อินโฟพลิกปูม