ไผ่หวาน เป็นพืชไผ่ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ระบายน้ำได้ง่าย ได้แก่ ดินร่วนปนทรายหรือดินทราย ที่สำคัญไผ่หวานยังเป็นไผ่ที่ให้หน่อในปริมาณมาก โดยเกษตรกรจะนิยมปลูกไผ่หวานไว้เพื่อบริโภคหน่อและส่งจำหน่ายไปยังท้องตลาด เพราะหน่อของไผ่หวานมีรสชาติหอมหวาน ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในการนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร ยิ่งทานหน่อสดก็ยิ่งได้รสชาติหวานอร่อย โดยทั่วไปเมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวหน่อไผ่หวานแล้ว เกษตรกรจะรีบส่งออกขายตามท้องตลาดในทันที เพื่อยังคงรสชาติหวานของหน่อไผ่ไว้ เพราะหากแช่เย็นหรือเก็บไว้นาน ก็อาจทำให้รสชาติหวานของหน่อไผ่นั้นลดลงได้
ไผ่หวาน เป็นพืชไผ่ที่มีลักษณะไม่แตกต่างจากไผ่ชนิดอื่นมากนัก แต่จะออกหน่อเยอะ แตกกิ่งกอจำนวนมาก มีลำต้นสูงเพรียว ลำต้นอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน ส่วนลำต้นที่มีอายุมากขึ้นก็มีสีเขียวเข้ม ลำต้นมีลักษณะเป็นปล้อง เหนือปล้องขึ้นมาก็จะมีรากงอกบริเวณรอบๆ มีกาบล้อมรอบไม่เท่ากัน มีหน่ออยู่ใต้ดิน ส่วนหน่อของไผ่จะมีกาบสีเหลืองอมเขียวหุ้มอยู่ รสชาติหน่อไผ่หวาน หวานมันอร่อย เป็นหน่อไม้ส่งขายได้ราคาสูง ยิ่งปลูกเยอะก็ยิ่งสามารถตัดหน่อขายได้เงินเยอะ และเงินที่ใช้ลงทุนก็ไม่สูงมากด้วย
ส่วนวิธีเพาะพันธุ์ต้นไผ่หวานสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน มีทั้งวิธีเพาะเมล็ด และ วิธีการแยกเหง้า แต่หากใช้วิธีการเพาะเมล็ดแล้วอาจจะใช้เวลานานถึงจะได้ผลผลิต เกษตรกรจึงมักจะใช้วิธีปักชำ และ แยกเหง้าสำหรับการปลูกต้นไผ่หวาน โดยสามารถปลูกลงในดินได้ทุกชนิด
ต้นไผ่หวานชื่นชอบดินร่วนซุยเป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี วิธีการคือเมื่อเตรียมหน่อ หรือ เหง้าเรียบร้อยแล้วก็ให้ทำการขุดหลุมขนาด 50x50x50 เซนติเมตร จากนั้นก็เว้นระยะห่างระหว่างต้น 2×2 เมตร และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก เมื่อนำเหง้าที่แยกมาปลูกลงหลุมเรียบร้อยแล้วให้กลบดินและรดน้ำให้ชุ่มบริเวณแปลงที่ปลูก
ที่สำคัญสถานที่ปลูกควรมีแสงแดดส่องถึงตลอดเวลา เพราะไผ่หวานเป็นพืชชอบแสงแดดมาก และควรรดน้ำในแปลงปลูก 2 อาทิตย์ต่อครั้ง เพื่อให้ได้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมต่อต้นไผ่หวาน ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว หากเกษตรกรจะปลูกไผ่หวานเพื่อเก็บเกี่ยวหน่อไปขาย ก็จะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน นับจากวันที่นำหน่อไผ่หวานลงแปลง วิธีการเก็บผลผลิตก็สามารถใช้พลั่วขุดแซะบริเวณดินที่หน่ออยู่ จากนั้นก็นำหน่อที่ได้มาใส่ภาชนะที่เตรียมไว้และรีบนำไปขายในตลาดหรือส่งแก่คนกลางเพื่อให้หน่อไผ่หวานคงความสด หวาน กรอบเมื่อผู้บริโภคนำไปประกอบอาหารต่อไป