“ปลาสวยงาม” ยิ่งหายาก ยิ่งได้ราคาดี

ถ้าจะเอ่ยถึงสัตว์เลี้ยงที่คนไทยเรานิยมเลี้ยงจากสัตว์สี่เท้าอย่างสุนัขและแมวแล้ว ก็ยังมีสัตว์น้ำอย่าง”ปลาสวยงาม”ติดอยู่ในลิสต์สัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลายคนเป็นแน่แท้ บ้างก็เลี้ยงเพื่อไว้ดูเล่น บ้างก็เลี้ยงสะสม และที่ขาดไม่ได้เลยคือเลี้ยงตามฮวงจุ้ยที่บางตำราเชื่อว่ากระตุ้นโชคลาภและความมั่งคั่ง แต่วันนี้จะมาชวนอ่านเรื่องของปลาสวยงามหลากหลายมุม ทั้งพันธุ์ปลาสวยงามที่เป็นที่ต้องการของตลาดและเรื่องของการผลิตปลาสวยงามเพื่อนำไปขาย หรือที่เราเรียกว่าผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงาม

แหล่งผลิตปลาสวยงามที่สำคัญตามข้อมูลการขึ้นทะเบียนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพและปริมณฑล นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรีและนครสวรรค์ และมีเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามมากกว่า 350 ฟาร์ม ตลาดสำคัญสำหรับการส่งออกคือ ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา และปลากัด จัดเป็นปลาที่ส่งออกมากที่สุด รองลงมา คือ ปลาหางนกยูง ปลาทอง  เป็นต้น

1915187485

สำหรับการเลี้ยง “ปลาสวยงาม” ยอดฮิตอย่างปลากัดและปลาหางนกยูงจะมีกระบวนการเพาะพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยการเพาะเลี้ยงปลากัดจะต้องนำพ่อแม่พันธุ์ปลากัดมาใส่ในขวดโหล และนำขวดโหลตัวผู้และตัวเมียมาวางไว้ใกล้ๆ กันราว 4-7 วัน แล้วค่อยนำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์อย่างละตัวมาใส่ไว้ในขวดโหลเดียวกันที่ได้ใส่ใบไม้ให้เป็นที่อยู่ของลูกปลา หลังจากนั้นประมาณ 2 วัน จึงมีการวางไข่ ให้รีบนำแม่พันธุ์แยกออกมาจากขวดโหลเพื่อไม่ให้กินไข่ตัวเอง แต่หากเป็นการเพาะปลาหางนกยูงเชิงพาณิชย์ จะนิยมเพาะในบ่อซีเมนต์ สามารถปล่อยพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ได้จำนวนมากถึง 180 ตัว/ลบ.ม. โดยแบ่งเป็นสัดส่วนตัวผู้ 1 ส่วนต่อตัวเมีย 3 ส่วน เมื่อได้ลูกปลาจึงแยกลูกปลาออกไปเลี้ยงในบ่ออนุบาล

fish 6542424 1280

ส่วนวิธีการเลี้ยงปลากัดนั้น มีข้อดีคือปลากัดเลี้ยงง่ายไม่ต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจนและสามารถเลี้ยงได้ด้วยอาหารสำเร็จรูปและลูกน้ำ แต่หากเลี้ยงปลาหางนกยูงนั้น นิยมเลี้ยงแยกเพศแยกบ่อ และต้องมีการเพิ่มอออกซิเจนในบ่อและควบคุมอุณหภูมิน้ำให้อยู่ระหว่าง 25-29 องศาเซลเซียส ส่วนอาหารนั้นนอกจากอาหารปลาและลูกน้ำแล้ว ควรเพิ่มไรทะเลและไรแดงเข้าไปด้วย

สำหรับ เกษตรกรที่สนใจจะหันมาผลิตปลาสวยงามเพื่อจำหน่ายนั้น นอกจากมีความรักและรู้จักนิสัยปลาแล้ว ควรต้องศึกษาเรื่องของการตลาดอย่างจริงจัง เพราะหากจะเจาะตลาดส่งออกแล้วจำเป็นต้องศึกษาเรื่องกฎระเบียบของแต่ละประเทศคู่ค้าอย่างละเอียด เพื่อจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ส่ง “ปลาสวยงาม “ไปขายยังประเทศปลายทางได้อย่างราบรื่น