เซียนท้อ เป็นชื่อของผลไม้ชนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่ผลไม้ดั้งเดิมของบ้านเรา ประเมินว่าน่าจะมีการนำเข้ามา ทดลองปลูกในบ้านเรา ในช่วงไม่เกิน 15 ปีที่ผ่านมา และยังไม่มีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายมากนัก ผลผลิตส่วนใหญ่พบเห็นได้มากที่สุดทางภาคเหนือและภาคอีสาน โดยวางขายอยู่บ้างตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และตลาดขายของฝาก โดยจะนิยมเรียกชื่อผลไม้นี้ว่า ม่อนไข่ ส่วนของภาคกลางเรียก เซียนท้อ บางถิ่นเรียก ละมุดอินเดีย แต่เมื่อก่อนคนไทยไม่ค่อยนิยมรับประทานกันเท่าไหร่ เพราะยังมีคนไทยอีกมากที่ไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อของผลไม้นี้มาก่อน
เซียนท้อ หรือ ม่อนไข่ มีผลรูปร่างคล้ายหัวใจ มีทั้งผลกลม หรือผลรี ปลายผลอาจมีจะงอยแหลม ผลสุกงอมแล้วจึงรับประทานได้ ซึ่งเปลือกและเนื้อผลจะมีสีเหลืองเข้ม เนื้อเหนียวหนึบเล็กน้อย รสมันอมหวานคล้ายๆ กินมันเทศนึ่ง หรือฟักทองสุก มีเมล็ดขนาดใหญ่อยู่ใจกลางผลคล้ายกับ อะโวคาโด โดยในช่วงระยะ 5 ปีหลังที่ผ่านมานี้ เซียนท้อเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นและ เริ่มมีเกษตรกร หันมาทดลองปลูกกันเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย สาเหตุเป็นเพราะโลกออนไลน์ ทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและกว้างขวาง เมื่อสังคมออนไลน์เริ่มพูดถึงผลเซียนท้อ คนที่ยังไม่รู้จักไม่เคยชิมมาก่อน ก็เริ่มอยากลองชิมดู จึงเกิดกระแส มีการไถ่ถามกัน เริ่มมีการแชร์ข้อมูลและพบว่าเมืองนอกเขานิยมรับประทานผลสุกกันมานานแล้ว เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ และแปรรูปเป็นอาหาร เป็นขนมได้อีกหลายอย่าง เช่น แพนเค้ก แยม คัสตาร์ด นอกจากนี้ยังปลูกเป็นไม้ประดับก็ได้เพราะใบสวย ดอกหอม ให้ร่มเงาได้ดี แถมยังมีผลให้กินอีกด้วย
เกษตรกรหลายคนที่เห็นโอกาส ก็ไม่รอช้าเริ่มทดลองปลูกดู เพราะมีช่องทางขายอีกมากในโลกออนไลน์ เกษตรกรบางคนหาข้อมูล 1 วัน สั่งผลเซียนท้อมาอีก 3 วัน เพื่อมาชิมดู จากนั้นก็ใช้เมล็ดเพาะขยายพันธุ์เมื่อครบ 3 เดือน ก็ประกาศขายเป็นกล้าพันธุ์ต่อได้ทันที หรือจะย้ายลงแปลงเพื่อทดลองปลูกเองก็ได้
เซียนท้อ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ นิยมปลูกในประเทศเขตร้อน เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลางสูงประมาณ 10-25 เมตร เป็นไม้เนื้อแข็ง ทรงพุ่มขนาดกลางไม่ผลัดใบ ใบเรียวยาวแหลมดูคล้ายปลายหอก ดอกสีครีมมี 5-6 กลีบ มีกลิ่นหอมคล้ายละมุดและพิกุล เพราะเป็นพืชวงศ์เดียวกับ ขยายพันธุ์ได้ทั้งเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง ปลูกได้ในดินทุกชนิด ที่ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดด ซึ่งสภาพดินฟ้าอากาศของบ้านเรานั้นปลูกเซียนท้อได้อย่างสบาย โดยจะให้ผลประมาณ 2-3 ปี หลังจากลงแปลง เมื่อผลสุกจะมีสีเหลืองอ่อน ให้ใช้กรรไกรตัดขั้ว แล้วนำมาพักบ่มไว้ให้สุกงอม เพื่อให้ได้รสชาติหวานมัน อร่อยยิ่งขึ้น ก่อนที่จะนำไปขายต่อไป