มะตูม เป็นผลไม้พื้นบ้าน ที่ถือได้ว่ามีความแปลกอย่างหนึ่ง คือคนไทยส่วนใหญ่ต่างก็รู้จักชื่อของผลมะตูมกันทั้งนั้น แต่กลับมีคนเพียงส่วนน้อยมาก ที่เคยเห็นหน้าตาของผลมะตูมสดจริง ๆ มาก่อน ซึ่งเป็นเพราะผลมะตูมสุกมีรสชาติหวานอร่อย ด้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่นอีกหลายชนิด คนส่วนใหญ่จึงไม่นิยมกินกันมากนักทำให้ไม่ค่อยมีใครเอาผลมะตูมสุกมาขายเป็นผลไม้ตามท้องตลาดเลย
แต่ต่อมาคนกลับหันมานิยมกินมะตูมในรูปแบบสมุนไพรกันมาก นิยมนำผลมะตูมดิบมาฝานตากแห้ง เพื่อใช้ทำเป็น น้ำสมุนไพรมะตูม ชามะตูมขนมมะตูมเชื่อม เป็นต้น จนแพร่หลายกันมา แต่ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่มีเกษตรกรคนไหนที่คิดจะปลูกต้นมะตูมในเชิงการค้าอย่างจริงจัง เพราะบ้านเรามีผักผลไม้แสนอร่อยอีกสารพัดชนิดให้เลือกปลูกกันอีกมากมาย
มะตูม เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง15-20 เมตร เปลือกลำต้นแข็งหนา มีหนามแข็งขึ้นตามกิ่ง มีใบประกอบใบย่อย 3 ใบ รูปร่างคล้ายใบหอก ใบตรงกลางมีขนาดใหญ่กว่าใบด้านข้าง ผิวใบเรียบเป็นมัน ดอกมีขนาดเล็ก สีเขียวอมขาว มีกลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ปีละครั้ง ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งลำต้นจะผลัดใบจนหมด จากนั้นจึงแทงใบอ่อนและช่อดอกออกมา ต้นมะตูมที่พบในบ้านเรามากสุดคือ มะตูมท้องถิ่น มีผลกลมใหญ่ เปลือกแข็งมาก ตามมาด้วย ต้นมะตูมไข่ มีขนาดเล็กกว่า ผลทรงรีรูปไข่ เปลือกแข็ง และ ต้นมะตูมนิ่ม ผลเหมือนมะตูมไข่แต่เปลือกนิ่ม มะตูม 3 ชนิดนี้จะมีเนื้อผลสุกเหมือนกัน คือ สีส้มอมเหลือง มีกลิ่นหอม เมล็ดเรียงเป็นวงรอบแกนผล ผลมะตูมที่นิยมนำมาฝานตากแห้งเป็นสมุนไพร ต้องเป็นผลมะตูมดิบอายุผล 4-7 เดือน เท่านั้น และจะนิยมใช้มะตูมไข่ กับมะตูมนิ่มมากกว่า
ปัจจุบัน มะตูมฝานตากแห้ง ในตลาดพืชสมุนไพรนั้น มีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ ต้นมะตูม เริ่มหาได้ยากยิ่งขึ้น ที่หลงเหลืออยู่โดยมากจะเป็นต้นเก่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ บริเวณชายป่า หรือ ตามหัวไร่ปลายนาทั่วไป ที่เจ้าของที่ดินเก็บเอาไว้ขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อผลมะตูมดิบเป็นประจำในทุกๆ ปี แม้ที่ผ่านมาจะมีเกษตรกรที่เริ่มหันมาปลูกมะตูมกันเพิ่มมากขึ้น แต่ก็เป็นการปลูกแบบผสมผสานร่วมกับพืชสมุนไพรชนิดอื่น และยังไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะต้องใช้เวลาปลูกมากกว่า 5 ปี ต้นมะตูมจึงจะเริ่มมีผลผลิตให้เก็บได้เกี่ยวได้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดี ให้ เกษตรกรได้พิจารณาปลูกต้นมะตูมขึ้นมา 20-50 ต้น ในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อรองรับโอกาสที่จะเข้ามา ซึ่งต้นมะตูมถือว่าเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศในบ้านเราได้ดีอยู่แล้ว ไม่สิ้นเปลืองเวลาดูแลอะไร เพียงรดน้ำและ ใส่ปุ๋ยบำรุงดินบ้างตามสมควรเท่านั้น เมื่อปลูกได้ที่แล้วประมาณ 2-3 ปี ก็สามารถขยายพันธุ์เพิ่มโดยการตอนกิ่ง หรือ เสียบยอด เพื่อต่อยอดทำต้นกล้าพันธุ์ขายได้อีกช่องทางหนึ่ง