ถั่วลิสงเป็นพืชที่ทนแล้ง ทำให้พึ่งพาน้ำไม่มาก ปลูกได้แม้ในฤดูแล้ง คนโบราณเรียกถั่วชนิดนี้ว่าถั่วดิน แค่นำมาต้มหรือใส่กระทะคั่วก็กลายเป็นของขบเคี้ยวชั้นเยี่ยมยุคนั้นกันเลย
ถั่วลิสงเป็นพืชล้มลุกเนื้ออ่อน เป็นพุ่มเตี้ย ลำต้นราบไปตามพื้นดิน ใบประกอบด้วยใบย่อย ดอกขนาดเล็ก สีเหลือง เมื่อผสมเกสรแล้วก้านรัง-ไข่แทงลงใต้ดิน ฝักเติบโตใต้ดิน แต่ละฝักมีเมล็ด 1-5 เมล็ด ฝักยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างหนา ขรุขระ เปลือกหุ้มเมล็ดสีน้ำตาลหรือม่วง
ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของถั่วลิสง อยู่ในทวีปอเมริกาเขตร้อน ปัจจุบันถูกนำไปปลูกในประเทศเขตร้อนทั่วโลก เป็นพืชตระกูลถั่วที่ปลูกกันมากที่สุดรองลงมาจากถั่วเหลืองเท่านั้น ในประเทศไทยสันนิษฐานว่าถั่วลิสงเข้ามาในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี หลังจากมีการติดต่อกับชาวตะวันตกแล้ว ถั่วลิสงนับเป็นถั่วยอดนิยมของชาวไทยมาเนิ่นนานตราบจนปัจจุบัน
ในตำราสรรพคุณสมุนไพร ได้บรรยายสรรพคุณของถั่วลิสงไว้ว่า ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงไขข้อ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เนื่องจากเมล็ดถั่วลิสงมีน้ำมันอยู่มาก จึงใช้สกัดน้ำมัน ได้น้ำมันถั่วลิสงซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมันมะกอกได้ ใช้ในอุตสาหกรรมปั่นด้าย อุตสาหกรรมสบู่ แชมพู และทำเป็นตัวละลายในยาชนิดฉีด เป็นต้น กากถั่วลิสงที่เหลือจากการสกัดน้ำมันใช้ทำอาหารสัตว์ได้ดี ส่วนลำต้นและใบใช้เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว แพะ แกะ เปลือกฝักถั่วลิสงทำปุ๋ยหมัก หรือใส่กระถางต้นไม้ รักษาความชื้นและเป็นปุ๋ย
การปลูกถั่วลิสงสำหรับที่ดอนและไร่ มักปลูกในฤดูฝน ส่วนที่หลังนานั้นเราจะปลูกช่วงหน้าแล้ง หลังเก็บเกี่ยวเสร็จเราต้องรีบปลูกทันที เพื่อจะได้ใช้ความชื้นในดินจากน้ำใต้ดินตื้นของแปลงนามาบำรุงต้นถั่ว โดยเราต้องปรับสภาพความเปรี้ยวความเค็มของดินให้เหมาะสมก่อน และผสมปุ๋ยคอกให้เรียบร้อยด้วย ไถพรวนดินฆ่าวัชพืช 2 รอบ แล้วยกร่องแคบไม่เกิน 1 เมตร แล้วทำแนวปลูกได้ 2 แถวบนแปลง หยอด 3 ต้นต่อหลุม และต้องคอยให้น้ำทุก 1 สัปดาห์ ให้บ่อยๆ แต่ให้ปริมาณน้อยๆ จะช่วยให้ถั่วเติบโตได้เต็มที่ อย่าให้น้ำขังเพราะจะเกิดโรครากเน่า
เราจะเริ่มกำจัดวัชพืชหลังจากเราปลูกแล้ว 2 สัปดาห์และ 4 สัปดาห์ พร้อมกับใส่ปุ๋ยและพรวนดิน เมื่อถั่วเริ่มให้ดอก เราต้องทำการพูนโคนต้นแบบเตี้ยๆ แผ่ลาดกว้างๆ เพื่อให้ครอบคลุมฝักทั้งหมด และโรยยิปซัม ซึ่งเป็นธาตุอาหารแคลเซียมแก่ถั่ว ประมาณไร่ละ 50 กิโลกรัม เมื่อโรยเสร็จแล้วให้พรวนกลบโคนไว้ แต่หากเราปลูกถั่วจัมโบ้ ควรต้องเพิ่มยิบซั่มขึ้นมาเป็น ไร่ละ 100 กิโลกรัม เพราะต้องการแคลเซียมสูงมากกว่าพันธุ์อื่น
หลังจากปลูกไม่เกิน 3-4 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ได้ทั้งดินที่มีคุณภาพ ได้ทั้งรายได้กันไปเลย