“เลี้ยงไส้เดือนบนแปลงผักยกแคร่” แก้ปัญหาทางการเกษตร ประหยัดต้นทุน สร้างรายได้เสริม

การจัดการดินในการทำเกษตร ถือเป็นปัญหาที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาดินเสื่อมโทรม ดินเค็ม ดินเปรี้ยว ฯลฯ จึงต้องมีการจัดการดินก่อนการเพาะปลูก การปรับปรุงบำรุงดินก็ทำได้ยาก ใช้ต้นทุนสูง การยกแคร่เพื่อปลูกผัก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปลูกผัก นอกจากจะสามารถปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับพืชได้แล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดการระบาดของโรคแมลง ศัตรูพืช วัชพืช ทำให้สามารถจัดการกับแปลงผักได้ง่ายขึ้น แต่มีข้อเสียคือ เมื่อปลูกไประยะหนึ่ง พืชจะเจริญเติบโตช้า เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง จึงต้องเปลี่ยนดินในแคร่ ดังนั้นการเลี้ยงไส้เดือนบนแปลงผักยกแคร่จึงเป็นนวัตกรรมในการปลูกผักอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยลดแรงงาน ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนดินภายในแคร่

capture 20240422 151755

ก่อนจะเลี้ยงไส้เดือนในแปลงผัก จะต้องทำความรู้จักกับวิสัยของไส้เดือนก่อน ซึ่งไส้เดือนเป็นสัตว์ใต้ดินที่สร้างปุ๋ยให้กับพืช พรวนดินให้มีความร่วนซุย ไส้เดือนนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์มีวิสัยแตกต่างกัน เช่น สายพันธุ์ AF สายพันธุ์ Tiger worm สายพันธุ์ขี้ตาแร่ สายพันธุ์ Blue worm เป็นต้น

capture 20240422 151604

ไส้เดือนที่มักพบบริเวณบ้านจะเป็นไส้เดือนไทย ลำตัวสีเทาเป็นพันธุ์ที่หากินลึกมูลน้อย ขยายพันธุ์ช้า และชอบหนี จึงนิยมเลี้ยงสายพันธุ์ AF ซึ่งเป็นไส้เดือนพันธุ์ต่างประเทศที่กินเร็ว ขับถ่ายจำนวนมาก และขยายพันธุ์ได้ดี

วิสัยของไส้เดือนคือชอบอยู่ในที่มืด ชื้นแฉะโดยตอนกลางวันไส้เดือนจะลงไปอยู่ใต้ดินเพราะกลัวแสง แต่ตอนกลางคืนจะขึ้นมาหากินและขับถ่ายบริเวณด้านบน

การเลี้ยงไส้เดือนในแคร่ผักจะผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือนซึ่งมีธาตุอาหารมากมายทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และยังสามารถจำหน่ายมูลไส้เดือนหรือสายพันธุ์ไส้เดือนในอนาคตได้อีกด้วย โดยขั้นตอนการเลี้ยงไส้เดือนในแคร่ผักมีวิธีการดังนี้

อาหารของไส้เดือน

อาหารของไส้เดือนใช้เพียงมูลวัวแห้งก็สามารถเลี้ยงไส้เดือนได้ โดยนำขี้วัวแห้งแช่ในน้ำประมาณ 5-7 วัน และเปลี่ยนน้ำ 2 ครั้ง เมื่อเห็นว่ามูลวัวเปื่อยแล้ว ก็สามารถนำไปใส่ในแคร่ได้โดยไม่ต้องทำให้แห้ง

capture 20240422 155912

การยกแคร่ปลูกผัก

การทำแคร่ผัก สามารถนำวัสดุเหลือใช้ภายในบ้านมาทำได้ โดยจะคำนึงถึงการใช้งานและความแข็งแรงของแคร่ผักด้วย การทำแคร่ผักมีวัสดุและขั้นตอนการทำดังนี้

วัสดุ

1.ท่อนไม้ หรือท่อเหล็ก

2. กระเบื้องลอนคู่

3.ไม้ฝา ขนาดกว้าง 8 นิ้ว

ขั้นตอนการทำ

1.นำท่อนไม้หรือท่อเหล็กมาทำเป็นขาแคร่ โดยให้สูงจากพื้นประมาณ 70 เซนติเมตรหรือในระดับที่สามารถทำงานได้สะดวกโดยขาแคร่แต่ละเสาจะต้องห่างกัน 1 เมตร

2.นำกระเบื้องลอนคู่ 2 แผ่น (1 แผ่น กว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 120 เซนติเมตร) มาวางคู่กันเพื่อให้ได้ขนาดแคร่ กว้าง 100 เซนติเมตร ยาว 120 เซนติเมตร หากต้องการแคร่ขนาดใหญ่ขึ้น ให้ต่อแปลงให้ยาวขึ้นตามความต้องการ

3.นำไม้ฝาขนาดกว้าง 8 นิ้ว มากั้นเป็นขอบแคร่ เพื่อป้องกันวัสดุภายในแคร่ไหลออก

capture 20240422 160052

การเลี้ยงไส้เดือนบนแปลงผักยกแคร่

เมื่อได้พันธุ์ไส้เดือนที่เหมาะสม รู้วิธีในการทำอาหารไส้เดือน และมีแคร่ผักแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลี้ยงไส้เดือนในแคร่ผัก โดยมีเทคนิคในการปลูกเล็กน้อย เพื่อให้ทำงานง่าย และไม่ต้องเปลี่ยนดินภายในแคร่ผัก ซึ่งมีวิธีการดังนี้

1.นำมูลวัวที่แช่น้ำไว้แล้ว (อาหารไส้เดือน) ใส่ลงไปในแคร่

2.นำไส้เดือนพันธุ์ที่ต้องการปล่อยลงไปในแคร่ผัก

3.ปลูกผักในกระถางและนำมาไว้ในแคร่ ตามระยะห่างที่เหมาะสม

4.เมื่อปลูกเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม แต่ให้คอยสังเกตมูลวัวและมูลไส้เดือนในแคร่ผักอยู่เสมอ

capture 20240422 160232

5.เมื่อมูลไส้เดือนมีปริมาณมาก และมูลวัวที่ใส่ลงไปยุบลง ให้นำมูลไส้เดือนออกไปขายและเติมมูลวัวแช่น้ำลงไปเพิ่มเพื่อเป็นการเพิ่มอาหารให้แก่ไส้เดือน และยังได้มูลไส้เดือนอีกด้วย

พืชที่ปลูกในแคร่ด้วยนวัตกรรมนี้จะได้ธาตุอาหารจากมูลวัวและมูลไส้เดือนไปพร้อม ๆ กัน เมื่อผักเจริญเติบโตและเก็บผลผลิตไปแล้ว ก็นำกระถางผักที่จะปลูกใหม่เข้ามาเปลี่ยนซึ่งถือเป็นการสับเปลี่ยนดินปลูกไปในตัวโดยไม่ต้องยกทีละมาก ๆ

capture 20240422 160454

ไม่ควรใช้กระถางใหญ่เกินความจำเป็น เพราะจะทำให้หนักเวลาเปลี่ยนกระถางปลูกพืชรอบใหม่

นอกจากรูปแบบการเลี้ยงไส้เดือนบนแปลงผักยกแคร่แล้ว ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น

-การปลูกผักในกระถางแล้วนำไปวางซ้อนไว้ในกะละมังที่เลี้ยงไส้เดือน

capture 20240422 160623

-การนำตะกร้าที่ใช้เลี้ยงไส้เดือนใส่ไว้ในถังที่เจาะรูข้างถังเพื่อปลูกผัก

capture 20240422 160824

จะเห็นได้ว่ามีนวัตกรรมในการเลี้ยงไส้เดือนร่วมกับการปลูกผักบนแคร่และนวัตกรรมต่าง ๆ ให้ได้เรียนรู้มากมาย การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเกษตร จะทำให้ทำการเกษตรได้ง่ายขึ้น สะดวก ประหยัดต้นทุน และยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย