“มะละกอ “เป็นอีกหนึ่งผลไม้ยอดฮิตในไทยบ้านเราที่นิยมบริโภคกันทั้งผลดิบและผลสุก โดยผลสุกนั้นจะให้รสชาติหวานหอมอร่อย แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย และมะละกอยังสามารถใช้ผลดิบเป็นวัตถุดิบของส้มตำ อาหารรสแซ่บยอดนิยม ที่ขาดตัวเอกอย่างมะละกอไปไม่ได้ ทำให้เกษตรกรในบ้านเรานิยมปลูกมะละกอเพื่อค้าขายและส่งออกทั้งในตลาดและในภาคอุตสาหกรรม เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปต่างๆ และยังมีการนำไปถนอมอาหารทำให้มะละกอมีอายุการเก็บรักษาอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ทำให้เกษตรกรหลายรายต่างพากันคัดเลือกพันธุ์มะละกอ เพื่อให้ได้พันธุ์ดีตรงกับความต้องการของตลาดมะละกอกันมากยิ่งขึ้น
โดยแต่เดิมนั้นเกษตรกรจะนิยมปลูกมะละกอแขกนวล เพราะเป็นพันธุ์ที่ให้เนื้อมะละกอดิบกรอบอร่อยเหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารอย่างส้มตำ และอีกพันธุ์ที่นิยมปลูก คือ มะละกอแขกดำ เพราะให้ผลดกและผลสวย เนื้อในเยอะ ไม่เละ ฉ่ำน้ำกำลังดี และยังเป็นพันธุ์ที่สร้างรายได้งาม นิยมส่งขายในห้างสรรพสินค้าเพราะมีคุณภาพดี แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันก็ยังมีการแข่งขันคัดเลือกพันธุ์มะละกอแขกดำที่ดีที่สุดเพื่อส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศให้ได้ราคาดีที่สุด
มะละกอแขกดำพันธุ์ชื่อดัง ที่นำมาปรับปรุงพันธุ์จนได้รับความนิยมในท้องตลาด ได้แก่ มะละกอแขกดำนายปรุง มะละกอแขกดำศรีสะเกษซึ่งถูกคัดเลือกสายพันธุ์มาจากมะละกอแขกดำราชบุรี และมะละกอแขกดำนครราชสีมา เพื่อปรับปรุงสายพันธุ์ให้ได้มะละกอรสชาติหวานฉ่ำ กรอบอร่อย ผลดกเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายได้ตลอดทั้งปี
การปลูกมะละกอ เราต้องเน้นที่การคัดเลือกพันธุ์มาปลูก แล้วทำการไถพรวนดินเพื่อกำจัดวัชพืชและเตรียมดินให้พร้อม โดยตากดินไว้เป็นเวลาประมาณ 14 วัน ก่อนจะเริ่มปลูกมะละกอลงไปในหลุม ปลูกเป็นคู่ โดยขุดหลุมพอประมาณเพื่อให้สามารถฝังรากของต้นมะละกอได้พอดี และเว้นระยะห่างระหว่างสองต้นที่ปลูกประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นก็ทำการกลบหน้าดินให้เรียบร้อย วิธีการดูแลก็เพียงหมั่นรดน้ำทุก 2-3 วัน หรือสังเกตได้จากบริเวณโคนดินรอบลำต้นหากดินแห้งแข็งกระด้างก็แปลว่าต้นมะละกอกำลังขาดน้ำ ให้เรารีบรดน้ำโดยเร็วที่สุด และหมั่นกำจัดวัชพืชโดยการไถหรือถอนวัชพืช หรือใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดไล่แมลงในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโตโดยสามารถใช้วิธีนี้ได้จนถึง 5 เดือนนับแต่วันที่ปลูกมะละกอ หลังจาก 5เดือนขึ้นไปควรหยุดใช้วิธีนี้เพราะไม่เป็นผลดีต่อผลผลิต
เมื่อต้นมะละกอยืนต้นและกำลังจะออกผลให้ใช้ไม้ค้ำยันต้นไว้เพื่อกันลมไม่ให้ต้นล้ม รอจนมะละกอแขกดำออกผลก็ให้นำถุงหรือผ้าสีขาวมาคลุมผลเอาไว้ เพื่อป้องกันแมลงและทำให้ได้ผลมะละกอที่สวยงาม ทำราคาได้ดี ในการดูแลต้นมะละกอนั้น เราสามารถใส่ปุ๋ยมูลไก่และปุ๋ยมูลค้างคาวเพื่อเพิ่มแร่ธาตุให้กับต้นมะละกอแขกดำให้ออกผลอุดมสมบูรณ์ มีน้ำหนักดี เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ไม่เกิน 4 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลได้เลย
โดยแต่เดิมนั้นเพื่อนๆ เกษตรกรจะนิยมปลูกมะละกอแขกนวล เพราะเป็นพันธุ์ที่ให้เนื้อมะละกอดิบกรอบอร่อยเหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารอย่างส้มตำ และอีกพันธุ์ที่นิยมปลูก คือ มะละกอแขกดำ เพราะให้ผลดกและผลสวย เนื้อในเยอะ ไม่เละ ฉ่ำน้ำกำลังดี และยังเป็นพันธุ์ที่สร้างรายได้งาม นิยมส่งขายในห้างสรรพสินค้าเพราะมีคุณภาพดี แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันก็ยังมีการแข่งขันคัดเลือกพันธุ์มะละกอแขกดำที่ดีที่สุดเพื่อส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศให้ได้ราคาดีที่สุด