บนโลกนี้มีกาแฟอยู่ถึง 100 กว่าสายพันธุ์ แต่ทว่าสายพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสตาเพียงแค่ 2 ชนิดนี้กลับครองส่วนแบ่งตลาดกาแฟทั่วโลกไปถึงเกือบ 95% แล้วเมล็ดกาแฟทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร มาตามหาคำตอบกันเลย
กาแฟอาราบิก้า รสชาติละมุน ซับซ้อน
การผลิตกาแฟอาราบิก้าต้องอาศัยการดูแลเป็นพิเศษ แค่เรื่องความสูงของต้นก็สำคัญแล้ว ต้นกาแฟอาราบิก้าค่อนข้างบอบบาง ชอบอุณหภูมิคงที่ประมาณ 15-24 องศาเซลเซียส ต้องการร่มเงา และความชื้นพอเหมาะ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกาแฟอาราบิก้าจึงมักปลูกบนที่ราบสูง บางครั้งอยู่บนภูเขาและมีต้นไม้ล้อมรอบเพื่อปกป้อง อาราบิก้าเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น มีความเป็นกรด มีกลิ่นที่ซับซ้อน และปริมาณคาเฟอีนที่ค่อนข้างต่ำ
กาแฟโรบัสตา เข้มข้น ทรงพลัง
สมชื่อโรบัสตาจริง ๆ กาแฟชนิดนี้คือกาแฟที่ “ทนทาน” มันครองส่วนแบ่งตลาดกาแฟโลกราว 30% ปลูกที่ระดับความสูงต่ำกว่าอาราบิก้าประมาณ 300-800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อีกทั้งทนโรคได้ดีและให้ผลผลิตสูง กาแฟโรบัสตาโดดเด่นเรื่องความเข้มข้น รสชาติทรงพลัง กลิ่นหอมน้อยกว่าแต่ชวนดื่ม และปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าอาราบิก้า พบปลูกมากในแถบแอฟริกา อินโดนีเซีย และอินเดีย เมล็ดกาแฟโรบัสตายังเข้ากันได้ดีกับกาแฟเบลนด์ต่างๆ ทำให้ผู้ผลิตมักใช้ในกาแฟสำเร็จรูป
ความแตกต่างระหว่างกาแฟอาราบิก้ากับโรบัสตา
-คาเฟอีน: อาราบิก้ามีคาเฟอีนน้อยกว่าโรบัสตา
–รสชาติ: อาราบิก้าหวานละมุนกว่าโรบัสตาที่ออกขมและเข้มกว่า
–ความทนทาน: โรบัสตาทนโรคและแมลงมากกว่าอาราบิก้า
–การปลูกและแปรรูป: อาราบิก้าต้องใช้แรงงานคนมากกว่าโรบัสตา
–ราคา: อาราบิก้าแพงกว่า เพราะปลูกยากกว่า
–ความนิยม: อาราบิก้านิยมมากกว่า แต่โรบัสตาที่ผ่านการแปรรูปดีๆ ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น
–ข้อดีข้อเสีย: ทั้งอาราบิก้า และโรบัสตาต่างมีจุดเด่นจุดด้อย จึงขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบส่วนตัว
–สำหรับใคร: โรบัสตาเหมาะกับคนชอบกาแฟเข้ม แรง ขมนิดๆ อาราบิก้าเหมาะกับคนชอบกาแฟหวาน หอม ซับซ้อน