“ไอ้ขุน” ตอนนี้พี่ปลูกกระท่อม 300 ต้น บริษัทเขาจะซื้อคืน 10 ปี ได้กิโลละ 200 บาทเลยนะ ซื้อไม่อั้นด้วยเซ็นสัญญากันมาเรียบร้อย เอาต้นพันธุ์ จากเขามาต้นละ 100 ตอนนี้เริ่มปลูกแล้ว”
เรื่องของญาติไอ้ขุนผู้ไม่ยอมอ่านหรือติดตามเรื่องเล่าข่าวเกษตร มาถึงขนาดนี้ ก็ได้แต่อวยพรให้ประสบความสำเร็จและรวยๆ สร้างความดีอกดีใจอย่างยิ่ง เพราะคนอื่นเจอหน้ามีแต่ถามไม่กลัวเขาโกงหรือ ไม่มีใครให้กำลังใจหรืออวยพรแกรัวๆแบบ “ขุนพิเรนทร์” เลย
พอถามเรื่องบริษัท มาจากไหนอย่างไร มั่นคงหรือเปล่า แล้วเรื่องโรงงานแปรรูปมีพร้อมแล้วใช่ไหม พี่ไอ้ขุนก็พูดว่า…ทุกอย่างพร้อม มีโรงงานที่กาฬสินธุ์ ส่วนสารคามกำลังก่อสร้างแต่ตอนนี้น้ำท่วมเลยเข้าไปทำโรงงานไม่ได้ บริษัทเขามาตรฐานนะ มาจากทางใต้ เซ็นสัญญาก็ที่โรงแรมใหญ่ของสารคาม
ความมั่นใจขนาดนี้ ขุนพิเรนทร์ไม่ขวางทางรวยหรอก อย่างมากก็แนะไปบ้างว่าลง 300 ก่อน พอผลผลิตออก ขายได้อย่างที่เขาสัญญาก็ค่อยๆลงเพิ่ม ไม่ต้องอยากรวยเร็ว ถ้าเขาประกันซื้อใบกระท่อมตั้ง 10 ปี
แนะนำเสร็จก็แยกย้าย ส่วนไอ้ขุนมีเป้าหมายที่แปลงกระท่อมก้านแดงริมข้างทาง ไอ้ขุนไม่เจอเจ้าของนะขอรับ สอบถามจากชาวบ้านแถวนั้นได้ความว่า…เป็นกระท่อมรอขาย มีคนมาส่งเสริมให้ทำพันธุ์กระท่อมจะรับซื้อคืนต้นละ 100 บาท แต่รอมานานแล้วยังไม่มีบริษัทมารับซื้อเลย กะด้วยสายตาแบบคร่าวๆ แปลงนี้อย่างน้อยๆ มีไม่ต่ำกว่า 30,000 ต้นแน่ๆ
กระท่อมแปลงนี้ส่วนใหญ่เป็นกระท่อมก้านแดงที่พร้อมลงปลูกแล้ว มีความสูงประมาณเมตร
กระท่อมต้นละร้อยของทั้งสองที่มีความหมายในตัวไม่ต่างกันคือเราจะรวยจากกระท่อม คนหนึ่ง 100 ซื้อมาปลูก เพื่อหวังกิโลกรัมละ 200 ส่วนอีกคน 100 เหมือนกันแต่เป็นราคาต้นพันธุ์ที่เพาะไว้
แต่เมื่อ “ขุนพิเรนทร์” สืบลึกลงไปกว่านั้น…กลายเป็นกลุ่มที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านั้น
แต่แปลกใจสุดๆคือ ทำไม ทั้ง 2 คนไม่เคยจำ หลังเคยล้มจากดาวอินคา กลายเป็นแสวงหาและทดลองของใหม่ๆตลอด ประหนึ่งเจ็บไม่พอขออีกสักที
ด้วยความหวัง…วันหนึ่งเราจะรวย