เมื่อนาข้าวจมน้ำเสียหายทั้งหมด เมล็ดข้าวเปลือกทุกเม็ดที่เหลือ และสามารถขนหนีน้ำท่วมได้ทันจึงมีค่า

น้ำท่วมปีนี้หนักสุดในรอบ 44 ปี คือคำยืนยันจากชาวนาบ้านคูสว่าง ต.หนองกินเพลอ.วารินชำราบจ.อุบลราชธานี 

เกือบ 1 เดือนแล้วที่พวกเขาต้องคอยเฝ้าดูแลข้าวเปลือกข้าวเหนียว ที่ขนออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมเกือบมิดหลังคา มาฝากไว้ที่บ้านญาติ 

แม้จะอยู่บนชั้นสองของตัวบ้าน แต่ก็ต้องทำชั้นไม้สูงอีกเกือบ 1 เมตร เพื่อวางกระสอบข้าว เพราะกลัวว่าข้าวจะถูกน้ำเสียหาย และคอยดูแลไม่ให้หนูมากัดกระสอบ จนเมล็ดข้าวหล่นลงพื้น และคอยไล่นกที่มากินที่สำคัญต้องเฝ้าไม่ให้มีคนมาลักขโมย

AD20CE81 5E9F 4665 BEBC 3C3041CBE937

นาข้าวของชาวบ้าน 4 หมู่บ้านในตำบลหนองกินเพลจมน้ำเกือบทั้งหมด ข้าวเปลือกจึงเป็นสิ่งสำคัญนอกจากจะเก็บไว้กินแล้ว ต้องเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับทำนาปรังหลังน้ำลดอีกด้วย เพราะช่วงน้ำท่วมอย่างน้อย 2 เดือนพวกเค้าแทบไม่ทีรายได้ การทำนาหลังน้ำลดคือความหวังที่จะทำให้มีรายได้ดูแลครอบครัว

093DF775 91A4 4534 AA28 52F2E48862C8

แต่อีกหลายครอบครัวก็ขนข้าวออกจากบ้านไม่ทัน น้ำเข้าท่วมเสียหาย ข้าวที่เหลืออาจพอได้กิน แต่ไม่เพียงพอจะใช้เป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกหลังน้ำลด 

3C446EEC DD4C 4CBB 9EB4 5530056D3983

“ข้าว” เปรียบเสมือนสิ่งล้ำค่าที่ช่วยประทังชีวิต เลี้ยงชีวิต และ ชี้อนาคตของชาวนาเหล่านี้…

ข้าวไม่เพียง…เป็นแค่อาหาร

แต่ข้าว…คือชีวิต