“ผมไม่ได้คิดแค่ ให้รัฐสนับสนุนชาวนาทุกปี ปีนี้ก็ 1,000 บาทต่อไร่ ปีหน้าก็ขอไปเรื่อยๆ แบบนี้ชาวนาจะมีความภาคภูมิใจได้อย่างไร ถึงเวลาแบมือขอ สิ่งที่ผมอยากเห็นคือความยั่งยืน”
หนึ่งในประโยคที่ จารึก กมลอินทร์ ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านท่าเยี่ยม ต.บ้านท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พรั่งพรูออกมา
“ผมอยากเห็นชาวนา กลุ่มชาวนาเข้มแข็ง มากกว่าที่เป็นอยู่”
“ประธานจารึก” เป็นใครมาจากไหน ชื่อของ “จารึก กมลอินทร์” ปรากฎในหลายๆสื่อเมื่อนำทัพสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชน กว่า 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ใส่ใจทุกข์สุข สนับสนุนงบประมาณเพื่อชาวนา ยื่นหนังสือ ประทับตราลับ ล้างขบวนการทุจริตเครื่องนับเมล็ดพันธุ์ข้าว ปราบคนโกงและยื่นหนังสือกับ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องงบ 15,000 ล้าน
“ขุนพิเรนทร์” เคยโทรสัมภาษณ์แต่ยังไม่เคยมีโอกาสเจอกันแบบตัวเป็นๆ “ชาวนาธรรมดา” แต่ทำไมหาญกล้าจะทำกลุ่มชาวนาให้เข้มแข็ง กล้าวิวาทะสมาคมชาวนาฯ เรื่องงบศูนย์ข้าวชุมชน
“ผมยังยืนยันการสร้างศูนย์ข้าวชุมชน ให้ชาวนารวมกลุ่มยิ่งเข้มแข็งเท่าไหร่ ยิ่งเป็นทางรอด ที่ศูนย์ข้าวชุมชนท่าเยี่ยม เราผลิตไม่พอขายจุดเริ่มต้นในการผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่ายจากเดิมคือเพื่อให้เกษตรกรในชุมชนได้มีเมล็ดพันธุ์ดีไว้ใช้ เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่จะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เก็บไว้ใช้เองไม่ค่อยได้มีการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพที่ต่ำ เมื่อนำไปจำหน่ายให้โรงสีจะถูกตัดราคาลงมามาก
หลังจากศูนย์ข้าวชุมชนท่าเยี่ยมผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพออกมาเพื่อให้สมาชิกและเกษตรทั่วไปได้ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดีแล้ว มีเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ดีจากทางกลุ่มมากขึ้น ทำให้ทางกลุ่มมีความมุ่งมั่นที่จะผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่าย ซึ่งเมล็ดพันธุ์ที่ทางกลุ่มผลิตนั้นจะต้องได้คุณภาพมาตรฐานและการยอมรับจากเกษตรกรและบุคคลทั่วไป
เราได้ยื่นขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ดีสำหรับเมล็ดพันธุ์ข้าว (GAP Seed) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเกษตรที่ใช้เมล็ดพันธุ์จากทางกลุ่ม ว่าจะได้เมล็ดที่ดีและมีคุณภาพตามมาตรฐานตามที่หน่วยงานราชการกำหนด
โดยทางศูนย์ข้าวชุมชนท่ายเยี่ยม ได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ องค์ความรู้ต่างๆในการผลิตเมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าว ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ทำให้ทางกลุ่มมีเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนทั้งในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ เป็นจำนวนมาก เกษตรกรสมาชิกและในชุมชนก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามไปด้วย”
“ประธานจารึก” คาดหวังอะไร คาดหวังให้ชาวนามีความยั่งยืน มีความภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพ
“…เราอยู่บ้านนอก ห่างไกลสื่อ เราไม่เคยโทรหาสื่อหรือมีสื่อในมือเพื่อสู้รบตบมือกับใคร ไม่ได้มีการเมืองหรือใกล้ชิดการเมือง ศูนย์ข้าวชุมชน เรามีตัวตนเรามีสมาชิก เรามีกิจกรรม เราหวังให้ชาวนามาเข้าร่วมเป็นศูนย์ข้าวชุมชน มาร่วมกันขับเคลื่อน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ศูนย์ข้าวชุมชน มีเป้าหมายที่ชัดเจนการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ เราไม่ได้มองแค่ว่า รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรเพียงเฉพาะหน้าเป็นปีต่อปี ซึ่งไม่เกิดความยั่งยืน ปัญหาก็จะเกิดการวนเวียนแบบเดิมๆ หากมองย้อนกลับไปเหมือนกลายเป็นสิ่งเสพติดของเกษตรกร ที่ต้องรอการช่วยเหลือจากรัฐบาล”
เสียดาย..เวลาน้อยไปหน่อย “ขุนพิเรนทร์” มีเรื่องจะถามเยอะมากๆโดยเฉพาะการทำเมล็ดพันธ์ข้าว กับเรื่องของข้าวอินทรีย์ คราวหน้าขอรบกวนประธานจารึกเพิ่มเติมทางโทรศัพท์นะครับ
แต่แอบสะดุ้งแทน ใครน้อ…ออกสื่อบ่อยๆ