“บิ๊กโจ” เริ่มปี 2567 ด้วยเรื่องราว ที่เหนืออยู่ความหมายของคนในแวดวงราชการ เมื่อปักหลักสู้และไม่ยอมถอยให้กับ “นักเคลื่อนไหว” หรือ “นักร้อง” ชื่อดังอย่าง “นายศรีสุวรรณ จรรยา”
26 มกราคม เหตุการณ์สุดระทึกได้เกิดขึ้น เมื่อตำรวจ ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ซ้อนแผนจับกุม “ศรีสุวรรณ จรรยา” คาบ้านพักย่านปทุมธานี หลังเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท ต่อรองเหลือ 1.5 ล้าน แลกไม่ยื่นเรื่องร้องเรียน
“บิ๊กโจ” มั่นใจว่า ที่ผ่านมาตนได้บริหารงานหรือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย คือนายศรีสุวรรณ นักเคลื่อนไหวชื่อดัง พร้อมพวก คือ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ หนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี พร้อม น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวอ้าง เพื่อข่มขู่ จึงมองว่าการถูกกระทำเช่นนี้ไม่เป็นธรรมแก่ตนเอง
ปฏิบัติการซ้อนแผนจับ “นักร้อง” เป็น ปฏิบัติการ “ ตายเป็นตาย” ซึ่ง ”บิ๊กโจ“ ได้ยอมรับในภายหลังว่า “นายศรีสุวรรณว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ม.แม่โจ้ ซึ่งหากเป็นสมัยก่อนได้โดนก้านกล้วยรอบสระ และโกนหัวครึ่งซีกแน่ กูเตือนมึงแล้ว บอกแล้วว่าให้หยุด”
ทั้งนี้ “บิ๊กโจ” ให้สัมภาษณ์สื่ออย่างเผ็ดร้อน “ผมรับราชการ มีธุรกิจครอบครัวทำด้วยความสุจริตที่เจ็บใจมากที่สุดกว่าจะเลี้ยงไก่ได้แต่ละตัว แต่กลับบอกว่าภรรยาของผมค้าตีนไก่ พูดเรื่อยเปื่อยได้อย่างไร สะท้อนแล้วว่าสังคมไทยเป็นเช่นนี้ ต้องจัดการ“
“มันไม่รู้จักหยุดสักที ผมเจ็บใจมาก มันเป็นใคร ประเทศไทยอยู่ได้ยังไง ถ้ามีคนประเภทนี้ ผมจึงวางแผนกันเอง ผมจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งไปที่ ป.ป.ป. ด้วยความรำคาญ ตายเป็นตาย ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว ชีวิตเกิดครั้งเดียว ถ้าไม่ผิดอย่ามาแกล้งกัน”
ข่าวอธิบดีกรมการข้าวกับ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ทำให้สังคมได้มองเห็นความเคลื่อนไหวในหลายประการ เบื้องหน้าเบื้องหลัง การตรวจสอบ แม้เป็นเรื่องดี แต่ต้องตั้งอยู่บนความถูกต้องและชอบธรรม
แม้วันนี้…คดีความเดินหน้า และ ยังไม่สิ้นสุด แม้ทางกฎหมาย จะยังไปไม่ถึงคำพิพากษา
อธิบดีแห่งปี จะเป็นใครไปไม่ได้
“ขุนพิเรนทร์” ยกให้ “บิ๊กโจ”
ชายผู้ใหญ่ทั้งตัวและหัวใจ
ชายผู้กล้าเดินหน้าสู้ความจริง
และไม่ยอมจำนนต่อความไม่ถูกต้อง
”บิ๊กโจ“ ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์
อธิบดีกรมการข้าว
