“คิดมาตลอดว่าอยากขยายร้านอาหารให้ใหญ่ขึ้น บังเอิญมาเจอห้างสรรพสินค้าสร้างเสร็จใหม่แห่งนี้ เลยติดต่อเข้าเปิดร้าน ซึ่งตอนนี้ขายดีมาก” เฉินเหม่ยนี หญิงชาวไทยจากลำปาง ผู้ลงหลักปักฐานในจีนมานานกว่า 10 ปี กล่าวขณะต้อนรับลูกค้าอย่างอบอุ่นที่ร้านอาหารไทยในนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน
“เฉิน”มาเรียนต่อที่กว่างซีตั้งแต่ปี 2010 จนจบปริญญาโท เคยทำงานล่ามและเลขานุการ ก่อนเบนเข็มมาลุยธุรกิจร้านอาหารจนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการ และเปิดร้านอาหารไทยหลายสาขาในกว่างซี เช่นเมืองฝางเฉิงกั่งและเมืองผิงเสียง โดยร้านอาหารของเธอเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนท้องถิ่นด้วยรสชาติต้นตำรับและการแสดงองค์ประกอบทางวัฒนธรรมไทย
จุดเริ่มต้นการเปิดร้านอาหารไทยของเฉินอยู่ที่ช่วงปลายปี 2019 ยามเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางข้ามพรมแดน โดยกลุ่มเพื่อนของเฉินเสนอแนะการเปิดร้านอาหารไทยในกว่างซี และนั่นกระตุกความคิดของเธอในการเป็นเจ้าของธุรกิจขึ้นมา
ร้านอาหารไทยขนาดเล็กแห่งแรกของเฉินตั้งอยู่ที่นครหนานหนิง เมืองเอกของกว่างซี และคว้าคำชมจากลูกค้ามากมายในเวลาไม่กี่เดือน นำไปสู่การโยกย้ายไปยังย่านธุรกิจการค้าที่มีคนพลุกพล่าน โดยเฉินเสริมว่าโรคระบาดใหญ่ทำให้ผู้คนไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ ร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับจึงกลายเป็นดาวจรัสแสง
ครั้นร้านอาหารไทยขนาดกว่าร้อยตารางเมตร ไม่เพียงพอรองรับลูกค้ารายวันที่แห่แหนมา “เช็กอิน” กันเป็นจำนวนมาก เฉินและเพื่อนร่วมหุ้นจึงวางแผนย้ายร้านอีกครั้งเมื่อต้นเดือนตุลาคม โดยร้านแห่งใหม่มีชื่อว่า “ไท่เสินจิง” ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าเดิมเกือบสามเท่าจนพร้อมต้อนรับกองทัพลูกค้าผู้อยากลิ้มรสอาหารและสัมผัสวัฒนธรรมไทย
“ไท่เสินจิง” มีบรรยากาศราวกับอยู่ “พิพิธภัณฑ์” ที่นำเสนออาหารไทยสารพัดเมนูและบริการชุดไทยโบราณให้เช่าสวมใส่ พร้อมประดับตกแต่งร้านด้วยภาพวาดฝาผนังและหน้ากากโขนอันมีเอกลักษณ์ไทยโดยมีการจัดแบ่งพื้นที่เป็นโซนรับประทานอาหาร ร้านสะดวกซื้อ จำหน่ายเครื่องดื่ม และเช่าชุดไทยถ่ายภาพ
“ร้านอาหารของเราเน้นขายอาหารไทย แต่บริการเช่าชุดไทยถ่ายภาพสร้างรายได้เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว” เฉินกล่าว พร้อมเล่าว่าหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบชุดไทย ซึ่งที่ร้านมีชุดไทยให้เลือกเกือบ 500 ชุด และเครื่องประดับต่างๆ พวกเขาจะพากันมาเช่าชุดไทยสวมใส่ ทานอาหารไทย ดื่มชาไทย และถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย ทำให้ “ไท่เสินจิง” เป็นที่รู้จัก
นอกจากร้านอาหารไทยแล้ว เฉินยังทำธุรกิจให้คำปรึกษาเพื่อช่วยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ของไทยบุกเบิกตลาดจีนและส่งออกสินค้าสู่จีนอย่างราบรื่น โดยเธอจะช่วยผู้ประกอบการชาวไทยทำความเข้าใจภาพรวมตลาดจีนและจัดการหารือเพื่อสร้าง “สะพาน” เชื่อมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างสองประเทศ
เฉินเสริมว่านอกจากการจำหน่ายสินค้าตามหน้าร้านแบบดั้งเดิม เธอยังเดินหน้าจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ด้วยการไลฟ์สดบนแพลตฟอร์มอย่างเถาเป่า(Taobao) และโต่วอิน(Douyin) หรือติ๊กตอก ซึ่งเฉินหวังว่าจะช่วยผู้บริโภคชาวจีนรู้จักและใช้สินค้าไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงสัมผัสวัฒนธรรมไทยได้ด้วยตนเอง
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว (XinhuaThai)