ปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก สร้างความความสะดวก สบาย รวดเร็ว ในด้านของเกษตรกรรมอย่างการปลูกข้าว ก็มีการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมด้านข้าวมากยิ่งขึ้น เพื่อลดการใช้แรงงาน ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย นำไปสู่การลดต้นทุนอย่างยั่งยืน ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยาได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดพะเยาและพื้นที่ใกล้คียง ลงพื้นที่ดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด พร้อมผลักดันและสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรอย่างสูงสุด
นายสงวน กันตะบุตร ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยา กล่าวว่า กรมการข้าวมีนโยบายเกี่ยวกับการลดต้นทุนการผลิตให้กลุ่มเกษตรกร ทางศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยาจึงมีหน้าที่ผลักดันให้เกษตรกรได้ใช้เทคโนโลยีอย่างทั่วถึง สนับสนุนให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อรับงบสนับสนุนจากทางภาครัฐ ซึ่งปีที่ผ่านมามีทั้งหมด 28 กลุ่มที่ได้รับงบประมาณจากกรมการข้าว ต่อมาได้มีการจัดการเรื่องเทคโนโลยี ยกตัวอย่างเช่น รถไถประจำกลุ่มเพื่อลดต้นทุนในการจ้างไถ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
“การบริหารจัดการภายในกลุ่มเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ภายในกลุ่มต้องสมาชิกคณะทำงานประจำตำแหน่ง เช่น ฝ่ายการเงินมีหน้าที่ทำบัญชี จดบันทึกข้อมูลต้นทุน กำไร และการปันผล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำในการจัดการทางการเงินต่อไปในอนาคต” นายสงวน กล่าว
ด้านนางผัดแก้ว งามเมือง ประธานกลุ่มข้าวอินทรีย์เทียนแก้ว อ.เมือง จ.พะเยา เล่าว่า ตนเองได้ประสานงานกับศูนย์ข้าวชุมชนและศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยาตลอดเวลา ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยาได้เข้ามาส่งเสริม ให้องค์ความรู้ สนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้สามารถผลิตข้าวอินทรีย์ได้อย่างมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ต่อมาทางศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยาได้แนะนำให้แปรรูปข้าวอินทรีย์เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สบู่ ขนม ข้าวสาร ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมข้าว 1 กิโลกรัม ราคา 60 บาท แต่เมื่อนำมาแปรรูปแพ็คสุญญากาศ ขายได้ราคา 80 บาท หรือการแปรรูปเป็นขนมชนิดต่าง ๆ จะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 300 บาทขึ้นไป เห็นได้ชัดเจนว่ารายได้เพิ่มขึ้นจริง ๆ