ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 และการเลือกตั้งนายกสัตวแพทยสมาคมฯกรรมการกลางสามัญวาระปี 2567 – 2569 ภายใต้แนวคิด “Be the Change : Young Vet, Big Goal” “เปิดรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาสิ่งที่ดีกว่าสำหรับอนาคตของเรา” โดยมีนายสัตวแพทย์เศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะนายกสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ผู้บริหารกรมปศุสัตว์สัตวแพทย์ทั่วประเทศไทยบริษัทชั้นนำและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในด้านสัตวแพทย์และสถาบันการศึกษาเข้าร่วม ณ โรงแรมเดอะสุโกศลกรุงเทพ
สำหรับการประชุมใหญ่สามัญเป็นกิจกรรมที่สัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อสรุปผลการดำเนินงานของสัตวแพทยสมาคมฯในรอบปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งมีกิจกรรมการมอบรางวัลสัตวแพทย์ตัวอย่างเพื่อเป็นการยกย่องสัตวแพทย์ผู้อุทิศตนเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพสังคมและประเทศชาติที่มีคุณความดีสมควรได้รับการพิจารณาให้เป็นแบบอย่างที่ดีของวงการสัตวแพทย์โดยแบ่งเป็นสาขาต่างๆได้แก่ 1) สัตวแพทย์ตัวอย่างสายงานวิชาการ 2) สัตวแพทย์ตัวอย่างสายงานเผยแพร่วิชาชีพและบริการสังคม 3) สัตวแพทย์ตัวอย่างสายงานธุรกิจและ 4) สัตวแพทย์ตัวอย่างรุ่นใหม่และที่สำคัญในปีนี้เนื่องจากคณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาของสัตวแพทยสมาคมฯครบวาระในการดำรงตำแหน่งจึงมีกิจกรรมการเลือกตั้งนายกสัตวแพทยสมาคมฯ กรรมการกลางสามัญ วาระปี 2567 – 2569 ร่วมด้วย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Vet EduTalk ซึ่งเป็นกิจกรรมทอล์คโชว์ภายใต้แนวคิด “Be the Change : Young Vet, Big Goal เปิดรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาสิ่งที่ดีกว่าสำหรับอนาคตของเรา” ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรที่ทรงความรู้และประสบการณ์ในการทำงานด้านวิชาชีพสัตวแพทย์ร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาวิชาชีพสัตว์แพทย์ให้ก้าวหน้าและทันสมัยซึ่งถือว่ากิจกรรมนี้เป็นเวทีเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ทางสัตวแพทย์ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสัตวแพทย์และส่งเสริมพัฒนาการสัตวแพทย์ของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญต่อวิชาชีพสัตวแพทย์เป็นอย่างมากเนื่องจากกระทรวงเกษตรฯมีบุคลากรทางด้านสัตวแพทย์ปฏิบัติงานอยู่ในส่วนงานต่าง ๆ มีหน้าที่คอยดูแลรักษาสุขภาพสัตว์ป้องกันโรคในสัตว์และโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนและควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากสัตว์ให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค อีกทั้งอาชีพสัตวแพทย์ยังเป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับจากสังคมและเป็นความหวังของคนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะเกษตรกรไทยซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มั่นคงมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังมีการบูรณาการความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสายวิชาชีพสัตวแพทย์เพื่อมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้มีความมั่นคงและยั่งยืนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจภาคการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามการประชุมดังกล่าวมุ่งหวังว่าจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพสัตว์แพทย์ให้ก้าวหน้าและทันสมัยและช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสัตวแพทย์ก่อให้เกิดพัฒนาการสัตวแพทย์ของประเทศไทยอย่างยั่งยืนและพร้อมจะให้การสนับสนุนทุก ๆ เรื่องต่อไป
