“ธรรมนัส” เอาจริง ชาวนาต้องขายข้าวได้ตันละ 12,000 บาท สั่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบ ย้ำสหกรณ์ต้องทำตามมติ ครม. ใครซื้อต่ำกว่า ธ.ก.ส.จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด

298002
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต (กข.) เปิดเผยว่า ที่เร่งประชุมวันนี้ เนื่องจากจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งการประชุมของคณะอนุกรรมการฯ จะเป็นการขออนุมัติเงินชดเชยในการพัฒนาและบริหารคุณภาพข้าวให้กับชาวนา 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่เกิน 20 ไร่ จำนวน 20,000 บาท โดยแนวทางดังกล่าว จะต้องเร่งดำเนินการเพราะจะเสนอ ครม. ในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลัง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้เตรียมงบประมาณวงเงินดังกล่าวไว้ให้แล้ว

298005
ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต

ส่วนกรณีการซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้นไม่เกิน 25% วงเงิน 12,000 บาทต่อตัน สามารถดำเนินการได้เลย ขณะที่การช่วยเหลือชาวนาในอนาคตหากพบว่าราคาข้าวมีการตกต่ำนั้น อยากจะบอกประชาชนว่ารัฐบาลเข้ามาในช่วง 2 เดือน ภายใต้กรอบที่ยังไม่สามารถใช้งบประมาณได้ ขณะนี้เป็นการใช้งบประมาณพรางไปก่อน และหลังฤดูเก็บเกี่ยวในปีนี้ กระทรวงเกษตรฯ และจะมีมาตรการพัฒนาคุณภาพข้าวในการที่จะหาตลาดในการส่งออก เพื่อระบายข้าวให้ได้มากที่สุด ตนจึงเชื่อมั่นว่าในฤดูเก็บเกี่ยว ปี 66/67 จะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้อีกซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งกระทรวงการคลัง จะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยตนมีการเล็งตลาดขายข้าวอื่นๆแล้วเช่นกันทั้งนี้ วันที่ 22 พฤศจิกายน ตนจะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อการเจรจาส่งสินค้าทางด้านการเกษตรหลายๆอย่างไป โดยจะไปทำพิธีสารในเรื่องของสินค้าเกษตรหลาย ๆ อย่าง

298015
ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต

ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวถึงสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ที่รับซื้อข้าว ให้เป็นไปตามมติ ครม. ให้รับซื้อในราคา 12,000 บาทต่อตัน ซึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการวันนี้ ได้กำชับปลัดกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่าต้องปฏิบัติตามมติครม.แต่หากสถาบันเกษตรกรใด ซื้อข้าวเปลือกในราคาที่ต่ำกว่านี้ ธ.ก.ส. จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด ดังนั้นอย่าซื้อราคาต่ำกว่านี้ เป็นการเอาเปรียบชาวนา แต่ยังพบปัญหาที่จังหวัดพะเยา ซึ่งอาจจะเป็นการสื่อสารกันผิดเนื่องจากขณะนี้เป็นการซื้อข้าวสด

298006
ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต

ร้อยเอกธรรมนัส ยังยืนยันว่า การทำงานในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่มีวันหยุดในเรื่องการลงพื้นที่ เพื่อนำปัญหาของประชาชนที่ทำการเกษตรมาศึกษาและแก้ปัญหาเป็นนโยบาย โดยตนได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งอธิบดีทุกกรม จะต้องทำงานแบบบูรณาการ ผลงานก็จะเห็นหลังจากนี้ เป็นต้นไป เพราะกรอบการทำงาน 60 วันที่ผ่านมา เป็นกรอบการทำงานโดยมีการวางแผน เพื่อเข้าสู่การปฏิบัติหลังวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ในหลายๆเรื่อง และหลังวันที่ 15 มกราคม 2567 จะเดินหน้าแจกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อการเกษตร รวมทั้งการช่วยเหลือแรงงานที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอล

298013
ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต

นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรและการระบายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นตนจะเริ่มทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ในการระบายสินค้า ทั้งนี้มองว่าการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ก็เป็นเรื่องที่สำคัญตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จะเห็นเป็นรูปธรรมหลัง 15 ธันวาคมนี้

ส่วนการเดินทางไปประชุมเอเปคที่สหรัฐอเมริกา ของนายกรัฐมนตรี จะมีสิ่งใด ส่งให้นายกฯ ไปเจรจาหรือไม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า นายกฯ มีอยู่แล้ว และทราบรายละเอียดของกระทรวงเกษตรฯ อยู่แล้ว

298003
ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต

ส่วนที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้ ร้อยเอกธรรมนัส ผ่านการประเมินการทำงานช่วง 60 วันนั้น ร้อยเอกธรรมนัส บอกว่า กระทรวงจะมีการประชุมผู้บริหารทุกวันพุธ จะมีการประเมินการทำงานในรอบสัปดาห์ ในรอบเดือน และในรอบ 60 วัน ว่าได้ทำอะไร ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็เช่นกัน ตนมองว่าการเมืองก็คือการเมือง พร้อมย้ำว่าการทำงานร่วมกันของรัฐมนตรีในกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีปัญหา โดยตนได้เชิญรัฐมนตรีช่วยทั้งสองคนมาพูดคุยกรอบการทำงาน ว่าต้องทำงานอย่างไร ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่บางคนเป็นรัฐมนตรีใหม่อาจจะยังไม่ทราบกรอบการทำงาน แต่ตอนนี้เข้าใจกันหมดแล้ว ตนได้มอบงานให้แต่ละคนไปทำ และทำให้เต็มที่ ซึ่งจะมีการประเมินการทำงาน หรือ KPI เป็นไตรมาส ที่จะดูจากผลงาน