ครม.เห็นชอบลงนามตกลงส่งออกเป็ดไปยังจีน ตั้งเป้ามูลค่า 1,000 ล้านบาท เผย ‘ตีนไก่’พ่อค้าจีนกว้านซื้อจนขาดตลาด ดันมูลค่าส่งออกไก่และชิ้นส่วนไก่ 8 เดือนแรก 10,000 ล้านบาท
วันที่ 10 ต.ค.66 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการลงนามตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสาร ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานศุลกากรสาธารณะรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบการกักกันและสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกสัตว์ปีกแช่แข็ง ชิ้นส่วนสัตว์ปีก จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน เนื่องจากไทยและจีนเคยมีพิธีสารกันอยู่แล้ว ในการส่งออกไก่และชิ้นส่วนของไก่ไปยังจีน แต่ถูกจัดกันอยู่แค่ไก่และชิ้นส่วนของไก่
ทั้งนี้ นายชัย เปิดเผยว่า ในปี 65 ไทยส่งออกไก่และชิ้นส่วนไก่ มูลค่า 13,000 ล้านบาท แต่ปีนี้ 8 เดือนแรก ส่งออกไปแล้ว 10,000 ล้านบาท ดังนั้นประเทศไทยต้องการขยายการส่งออกสัตว์ปีกไปยังประเทศจีนเพิ่ม โดยขอเพิ่มอีกเป็ด และชิ้นส่วนของเป็ดเพิ่มเติมรวม 18 รายการ เช่น ตีนเป็ด ข้อปีกเป็ด ปีกกลางเป็ด เป็นต้น ซึ่งถือว่า จีนต้องการมากเช่นเดียวกันตีนไก่ ที่ขณะนี้ขาดตลาด โดยพ่อค้าจีนมากว้านซื้อจนขาดตลาด เพราะไก่หนึ่งตัวมีแค่ 2 ตีน ดังนั้น จึงเชื่อว่า เป็ดเป็นสินค้าที่ทดแทนได้
ซึ่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ชี้แจงว่า ถ้าเปิดตลาดเป็ดได้ในปีแรก คาดการณ์ จะมีมูลค่าส่งออกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ครม.จึงแก้ไขพิธีสารเดิม โดยให้เพิ่มเป็ดและชิ้นส่วนเป็ด พร้อมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และผู้แทน ที่มีอำนาจลงนามในพิธีสารนี้ ไปลงนาม แต่เนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีกำหนดเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 16-19 ต.ค. คาดการณ์ว่า จะนำเรื่องนี้ลงนามในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเยือนด้วย
นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบการลงนามพิธีสาร เรื่องความปลอดภัยอาหาร ด้านการสัตวแพทย์และการป้องกันพืช เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ผึ้ง จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน เพื่อขยายการส่งออกผึ้ง ทำให้ผู้ผลิตผึ้งและผลิตภัณฑ์จากผึ้งมีตลาดส่งออกขยายกว้างมากขึ้น โดยครม.เห็นชอบมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำเนินการ และอาจถูกหยิบยกขึ้นมาในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเยือนจีนอย่างเป็นทางการ
พร้อมกันนี้ ไทยยังเตรียมเปิดการค้าเพิ่มเติม ด้วยการจัดทำพิธีสารว่าด้วยมาตรฐานสุขอนามัย สำหรับผลเสาวรสสด และต้นสนใบพาย จากไทยไปยังจีน