คณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คบท.) เห็นชอบดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน วงเงินกู้รวม 2,000 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรรายย่อย เล็ก กลาง ที่มีการเลี้ยงไก่ไข่ไม่เกิน 1 แสนตัว สุกรไม่เกิน 5 พันตัว เพื่อช่วยลดต้นทุนและเสริมสภาพคล่อง
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คบท.) ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และสุกร ปี 2566 ในการช่วยภาระค่าดอกเบี้ยจากการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารของรัฐ มาใช้ในการเลี้ยงไก่ไข่และสุกร ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และสุกรรายย่อย เล็ก กลาง ที่มีการเลี้ยงไก่ไข่ไม่เกิน 100,000 ตัว และสุกรไม่เกิน 5,000 ตัว ในอัตราชดเชยดอกเบี้ย ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน วงเงินกู้รวม 2,000 ล้านบาท
“โครงการชดเชยดอกเบี้ย จะช่วยเสริมสภาพคล่อง บรรเทาภาระต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และไก่ไข่ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเกิดเอลนีโญ โรคระบาดในสัตว์ ให้เกษตรกรมีทุนหมุนเวียน มีสายป่านต่อเนื่องในการเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ตลาด สร้างสมดุลด้านปริมาณและราคาให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่และเนื้อสุกรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม”
ทั้งนี้ กรมและคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมปศุสัตว์ ผู้แทนสมาคมผู้เลี้ยงผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ จะเร่งดำเนินการประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินโครงการต่อไป
สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นไปตามข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดสินค้าปศุสัตว์อย่างใกล้ชิด และหาทางดูแลต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร และดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า เพื่อสร้างสมดุลทุกภาคส่วน