รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ห่วงพะยูนเกยตื้นตายบริเวณชายทะเลจังหวัดกระบี่และพื้นที่ใกล้เคียง สั่งด่วนกรมประมงตรวจสอบ แก้ปัญหา พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือป้องกันเต็มที่
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่มีเหตุการณ์ชาวบ้านในพื้นที่บ้านเกาะมุก จ.ตรัง ร่วมกันช่วยเหลือพะยูนเกยตื้น เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา และล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ย ที่ผ่านมา ชาวบ้านเกาะจำ ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้พบซากพะยูนตายลอยอยู่ในทะเลบริเวณหลังเกาะจำนุ้ย 1ตัว จากการตรวจสอบย้อนหลังยังทราบว่า ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านได้พบซากพะยูน จำนวน 6-7 ตัวแล้ว
“การพบซากพะยูนในจำนวนมากดังกล่าวถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรทางทะลที่มีคุณค่า เนื่องจากพะยูน เป็นสัตว์สงวนชนิดหนึ่งตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ดังนั้นผมจึงได้สั่งการให้กรมประมง เข้าไปติดตามตรวจสอบหาสาเหตุการเกยตื้นตายอย่างเร่งด่วน และให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกรมทรัพยกรทางทะเลและชายฝั่งรวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่สาสามารถอำนวยความสะดวกเรื่องการออกตรวจหรือช่วยเหลือทางเรือ รวมถึงอาสาสมัครอนุรักษ์สัตว์น้ำ ผู้นำองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อร่วมมือกันดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก อีกทั้งได้กำชับให้ประมงจังหวัดทั้ง 22 จังหวัด 109 อำเภอ ชายทะเลดำเนินการตามมาตรการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวในตอนท้ายว่า การติดตามเฝ้าระวังการทำการประมงเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายากและสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น พะยูน โลมา เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้มีชีวิตอยู่คู่ทะเลไทยตลอดไป อีกทั้งยังเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการสหรัฐอเมริกาคู่ค้าสินค้าประมงอันดับหนึ่งของไทย ที่ออกกฎเกณฑ์จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2567 นี้ว่า สินค้าประมงที่ส่งออกจะต้องไม่ใช้เครื่องมือประมงที่มีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมอีกด้วย