วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการ พรรค พท. รับหนังสือจากสมาคมชาวไร่อ้อยพิษณุโลก พิจิตร ที่มาแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
จากนั้น นพ.ชลน่านให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ พรรค พท. กำลังรวบรวมรายชื่อจากพรรคร่วมเพื่อนำเสนอกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาเรื่องคุณสมบัติเพื่อส่งให้สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้รายชื่อเกือบ 100% โดยอาจจะมีการพิจารณาวันนี้เป็นโอกาสใกล้ ๆ สุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่า ส.ส.อีสาน ไม่พอใจเรื่องการแบ่งโควต้ากระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้พรรคอื่นไป นพ.ชลน่านกล่าวว่า “เราได้รับรู้ความต้องการมาตลอด พรรค พท. มีสมาชิกเกือบทุกพื้นที่ และมี ส.ส.ที่รับปัญหามาจากพี่น้อง ประชาชน ซึ่งเรารับรู้ปัญหามาโดยตลอดว่าสิ่งที่เขาต้องการและอยากได้ พรรค พท.ในฐานะแกนนำรัฐบาลควรดูแลกระทรวงไหนอย่างไร โดยเฉพาะเน้นกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมากที่สุด แต่เราอยู่ในฐานะที่ต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล การเจรจาต่อรอง และการทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายร่วมกัน ก็จะต้องนำเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย ในหลักการเหล่านี้ ทำให้บางกระทรวงที่เราคาดหวังว่าเราจะทำให้พี่น้องประชาชน อาจจะไม่เป็นไปตามความต้องการ ก็ต้องขออภัย และเราในฐานะที่ไม่ได้เป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด จำเป็นต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล เรามี 141 เสียงต้องหาเพิ่มอีกมาก ทำให้มีข้อจำกัด”
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา พรรค พท. เรามั่นใจว่านโยบายที่เราได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เราจะใช้นโยบายของพรรค พท.เป็นหลักในการขับเคลื่อน ฉะนั้น รัฐมนตรีไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนก็ตาม เรามีข้อผูกพันตรงนี้ไว้แล้ว และจะมีการนำนโยบายของพรรคอื่นๆ มาเสริมให้เข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งเขาก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค พท.เรา ลงไปสู่พี่น้องประชาชน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ชดเชยได้
เมื่อถามว่า นโยบายพักหนี้เกษตรกรของพรรค พท.จะไม่เป็นอุปสรรคต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีรัฐมนตรีมาจากพรรคอื่นใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะต้องมีการพูดคุยกัน และนโยบายเราได้มีการพูดคุย มีการแถลงในนามพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ว่าเราจะใช้นโยบายของพรรค พท.เป็นหลัก และจะเขียนเป็นนโยบายของรัฐบาลออกมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรค พท. เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม กลุ่ม ส.ส.อีสานได้แสดงความไม่พอใจกรณีโผ ครม.ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตกไปอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ได้อยู่ในการดูแลของพรรคหลักอย่างพรรค พท. โดยต่างแสดงความคิดเห็นว่าตอนหาเสียงพรรค พท.ขายนโยบายด้านการเกษตรไปเยอะ แต่เมื่อไปอยู่กับพรรคอื่นอาจไม่สามารถผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ อาทิ การพักหนี้เกษตรกร การให้โฉนดที่ดินแก่ประชาชน และถ้าพรรคร่วมผลักดันนโยบายของตัวเองไป ผลงานที่ได้จะตกไปเป็นของพรรคร่วมไม่ใช่ของพรรค พท. และอาจทำให้เสียคะแนนเสียงในส่วนนี้ไปได้
อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่แสดงความคิดเห็นต่างอยากให้คนของพรรค พท. อย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะเห็นถึงความสามารถ ซึ่งนายสมศักดิ์เองก็เคยแสดงความคิดเห็นอยากพัฒนาชีวิตเกษตรกรและเดินหน้านโยบายของพรรค พท.เพื่อเกษตรกรที่เป็นฐานเสียงสำคัญของประเทศ จึงอยากให้ทำหน้าที่ตรงนี้มากกว่าเป็นของพรรคร่วม เพื่อหวังให้พรรคได้คะแนนนิยมที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย
ทั้งนี้โผล่าสุดของรัฐมนตรีที่คาดหมายว่าจะดำรงตำแหน่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. (พปชร.) ไชยา พรหมมา รมช.เกษตรฯ (เพื่อไทย) อนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ (รวมไทยสร้างชาติ)