หอการค้าไทยยกทีมลุยพื้นที่สุรินทร์ ยกระดับโคเนื้อสู่มาตรฐานสากล พร้อมผลักดันการค้าชายแดน เพิ่มโอกาสการค้าในอนาคต
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้หอการค้าไทยได้นำคณะเยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด ทั้งนี้ ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อประสานความร่วมมือ พร้อมกับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ร่วมกัน
สำหรับประเด็นสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดสุรินทร์นั้น นายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ได้นำเสนอเรื่องการส่งเสริมการเลี้ยงโควากิวที่มีคุณภาพแบบครบวงจร เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ภายใต้แบรนด์ “สะเร็นวากิว”
ซึ่ง ดร.สมบัติ ธีระตระกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้ลงพื้นที่มาช่วยผลักดันร่วมกับนายสมบัติ สมบูรณ์เทอดธนา อดีตประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ปี 2560 ตามโครงการ 1 ไร่ 1 ล้านและได้พัฒนาต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์คนปัจจุบัน
ทั้งนี้ ได้มีการอบรมให้ความรู้ การปลูกพืชอาหารสัตว์ การเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมให้มีฟาร์มและโรงเชือดที่ได้มาตรฐาน จนสามารถส่งขายในโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก 2 เท่าตัว ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถใช้มูลวัวมาทำปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาด้านเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดสุรินทร์ได้อีกด้วย
นอกจากนั้น การค้าชายแดนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป โดยที่ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์นั้น มีมูลค่าการค้ามากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งหากมีการปรับปรุงพัฒนาด่านศุลกากรให้รองรับปริมาณการค้าที่จะเพิ่มขึ้นแล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้มีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
“ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลาย ๆ อย่างมีปัญหา แต่การค้าชายแดนยังสามารถเติบโตได้มากกว่า 30% จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดัน เพื่อเป็นแรงหนุนในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยด่านช่องจอมที่สุรินทร์นั้น จะเป็นประตูสำคัญที่เปิดโอกาสทางการค้าได้อีกมาก” นายสนั่น กล่าว