นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของสมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดนราธิวาส ณ สหกรณ์นิคมปิเหล็ง จำกัด ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่า โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้แนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ค้างชำระของสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร เสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้แก่สมาชิก ซึ่งเป็นโครงการที่มีประโยชน์และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการบรรเทาและแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร ผ่านโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรด้วยระบบสหกรณ์ ส่งผลให้สมาชิกมีความสามารถในการบริหารหนี้สินของตนเอง ผ่านกลไกการให้บริการของสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่ตนเองสังกัด รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ ทำให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ (กสน.3) และหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ให้แก่สมาชิกสหกรณ์นิคมปิเหล็ง จำกัด และสหกรณ์นิคมบาเจาะ จำกัด จำนวน 40 ราย พร้อมเยี่ยมชมบูธแสดงผลผลิตสินค้าของผู้แทนกลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์นิคมปิเหล็ง จำกัด เช่น เกษตรกรผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ เกษตรกรผู้ทำการเกษตรผสมผสาน เกษตรกรผู้ทำสวนผลไม้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากเกษตรกรผู้ทำนาข้าว เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิดสายพันธุ์พื้นถิ่นลุ่มน้ำบางนรา กลุ่มแม่บ้านผู้ผลิตตะกร้าสาน เกษตรกรผู้ทำสวนมะนาว เกษตรกรผู้ผลิตขนมกระหรี่ปั๊บ เกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง ได้ส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ โดยมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ของสมาชิกสหกรณ์ และสนับสนุนเงินทุนกู้ยืม จัดอบรมให้ความรู้ และให้บริการอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร เพื่อพัฒนาอาชีพของสมาชิก สร้างรายได้ และความมั่นคงทางอาชีพให้สมาชิกสหกรณ์มีได้เลี้ยงครอบครัวและพึ่งพาตนเองได้ อาทิ การปลูกปาล์มน้ำมัน การเลี้ยงโค เลี้ยงปลา การปลูกผักปลอดสารพิษ รวมทั้งส่งเสริมการทำการเกษตรแบบผสมผสาน นอกจากนี้ นิคมสหกรณ์ปิเหล็งยังมีการจัดโครงการส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยในเขตนิคมสหกรณ์ ภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมพัฒนาองค์ความรู้ การผลิตพืชปลอดภัยของสมาชิกสหกรณ์นิคมนำไปสู่การได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP หรือ PGS และมาตรฐานเกษตรอินทรียขั้นสูง
ปัจจุบันนิคมสหกรณ์ฯ มีสมาชิก จำนวน 672 คน มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน 13,119 ไร่ และมีการขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดใกล้เคียง ทำให้สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร และมีการรวมกลุ่มของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือดูแลเกษตรกร ซึ่ง โดยมีสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาสคอยให้คำปรึกษา แนะนำและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ที่ ทั้งนี้ ในปี 2542 กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดสรรงบประมาณส่งเสริมให้สมาชิกนิคมสหกรณ์ปิเหล็ง ทำการปลูกปาล์มน้ำมันให้มากขึ้น โดยกรมฯ ได้สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งสนับสนุนต้นกล้าปาล์มน้ำมันพันธุ์ดี พร้อมปุ๋ยและสารกำจัดศัตรูพืช สนับสนุนการก่อสร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ขนาดกำลังการผลิต 45 ตันทะลายต่อชั่วโมง ที่นิคมสหกรณ์บาเจาะ เพื่อรองรับผลผลิตของเกษตรกรให้มีตลาดที่แน่นอนและได้ราคาที่เป็นธรรม