รัฐบาลผลักดันการส่งออกไทยกับประเทศสมาชิก RCEP สำเร็จการค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร-เกษตรแปรรูป พร้อมขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เชื่อมผู้ประกอบการไทยกับผู้บริโภคทั่วโลก
วันที่ 2 ส.ค. 66 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลสำเร็จของรัฐบาลในการเดินหน้าผลักดันการส่งออกของไทย ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก RCEP หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร-เกษตรแปรรูปไทย โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ อาเซียน จีน และญี่ปุ่น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนแรกปี 2566 การส่งออกของกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปไปตลาด RCEP ขยายตัวได้ดี อาทิ น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผักกระป๋องและผักแปรรูป และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ส่วนกลุ่มสินค้าเกษตรที่ขยายตัว อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ด้านกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งขยายตัวได้ดี คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง
นอกจากนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – เมษายน) ไทยส่งออกโดยใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลง RCEP ขยายตัวถึง 107% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 422 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่งออกไปเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม และออสเตรเลีย มากที่สุด และรายการสินค้าที่ขอใช้สิทธิ RCEP สูงสุด อาทิ น้ำมันดิบ ปลากระป๋องและแปรรูป น้ำอัดลม มันสำปะหลัง หัวเทียน รถจักรยานยนต์ และทุเรียนสด
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญการส่งเสริมโอกาสผู้ประกอบการไทย โดยขยายตลาดส่งออกผลไม้ไทยทั้งผลไม้สดตามฤดูกาล ผลไม้แปรรูป และผลไม้กระป๋อง ไปยังตลาดผู้บริโภคทั่วโลก ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับตัวแทนแพลตฟอร์ม E-commerce หลายรายมาโดยตลอด รวมถึงเจรจาช่องทางจำหน่ายออนไลน์กับกลุ่มธุรกิจการค้าขายปลีกแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) อาทิ แม็คโครคลิ๊ก บิ๊กซี โลตัส รวมไปถึงการส่งเสริมให้กลุ่มผู้ประกอบการมีช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์เป็นของตัวเองในแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครายย่อย และสามารถเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่อไปได้ในอนาคต
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมผลสำเร็จจากการผลักดัน ดำเนินนโยบายสนับสนุนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA พร้อมส่งเสริมการขายผ่านช่องทางที่หลากหลาย เพิ่มโอกาสการส่งออกของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก โดยไทยเน้นย้ำนโยบายรักษาตลาดเดิม แสวงหาตลาดใหม่” นางสาวรัชดาฯ กล่าว