เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2566 นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานนิคมสหกรณ์คลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ส่งนายศุภฤกษ์ มีล่าม ตัวแทนจังหวัดกระบี่พรรคก้าวไกล คณะทำงาน สส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่นิคมสหกรณ์คลองท่อม เก็บรายละเอียดซักถามความเป็นมาเป็นไป ลักษณะประเด็นต่าง ๆ ของผู้ที่ครอบครองที่ดินในนิคมสหกรณ์คลองท่อมรวมทั้งข้อมูลเชิงลึก
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อต้องการทราบรายละเอียดในพื้นที่เห็นว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่สมาชิกนิคมสหกรณ์คลองท่อม จึงได้สั่งการให้นายเติมศักดิ์ เสียมไหม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์อ่าวลึก รักษาการผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อม สุ่มตัวอย่างเชิญผู้มีส่วนได้เสียให้ที่ดินนิคมสหกรณ์คลองท่อม มาให้รายละเอียด ซึ่งได้รับรายงานจากนายเติมศักดิ์ ว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดี และมีประชาชนที่มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูล จำนวน 39 ราย
“ได้ส่งเอกสารร้องทุกข์เพิ่มเติมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษที่น่าเชื่อว่าอยู่ในข่ายเอกสารสิทธิ์มิชอบไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวนประมาณ 300 แปลง ทั้งนี้มีเป้าประสงค์เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ใช้อำนาจการสอบสวนคดีพิเศษทำการสืบสวนสอบสวน และเป็นการสนับสนุนส่งเสริมนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตของกรมส่งเสริมสหกรณ์ด้วย อีกด้านหนึ่งได้สั่งการให้รักษาการผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อมให้ความสะดวกกับทุกกลุ่มที่ประสงค์ข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลถูกต้องตรงตามความเป็นจริงทุกประการ” นายวิศิษฐ์ กล่าว
ด้านนายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า กรณีนิคมสหกรณ์คลองท่อมเป็นหนึ่งในโครงการที่จะผลักดันให้เป็นพื้นที่กรณีตัวอย่างในการเข้าถึงที่ดินรัฐของประชาชนที่มีคุณสมบัติที่จะได้ที่ดินรัฐเพื่อประกอบอาชีพเพื่อความมั่นคงในการดำรงชีพในฐานะคนไทย ได้รับรายงานจากทีมงานที่ลงพื้นที่ว่า พบประชาชนบางรายสูญเสียเงินไปจำนวนหลายแสนบาท เพื่อแลกกับที่ดิน ที่น่าเชื่อว่าเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่มิชอบ และที่ดินเหล่านี้หลังจากที่ออกเป็นโฉนดแล้วได้นำไปแปลงเป็นเงินหลายรูปแบบ บางรายขาย บางรายจำนองสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผลกระทบวงกว้าง เนื่องจากต้นตอน่าจะเป็นเอกสารสิทธิ์มิชอบ และทางด้านลึกทราบว่ามีอดีตผู้บริหารบางรายสำนึกในการกระทำความผิด หรืออาจจะเพิ่งทราบว่าปฏิบัติหน้าที่โดยความประมาท และไม่เจตนากระทำความผิด แต่ได้เซ็นรับรองเอกสารปลอมให้มีการออกโฉนดที่ดิน และได้มีหนังสือผ่านสหกรณ์จังหวัดกระบี่ไปยังที่ดินจังหวัดกระบี่ เพื่อให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบนี้ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบติดตามข้อมูลต่อไป อยากฝากไปถึงกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้มีการสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏโดยไม่มีการละเว้นรวมทั้งการพิจารณาถึงการสอบวินัยข้าราชการด้วย
ทางด้านกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้รับนโยบายจาก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้กำกับดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีประชาชนทั้งเป็นเหยื่อและร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก และได้รับเรื่องร้องทุกข์จากกรมส่งเสริมสหกรณ์แล้ว อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตั้งชุดสืบสวนแล้ว ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรักษาสิทธิ์ของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์กับการเข้าถึงที่ดินรัฐผ่านกระบวนการจัดที่ดินของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มบุคคลและบุคคลที่กระทำความผิดกับการจัดสรรที่ดินของกรมส่งเสริมสหกรณ์
“ในเรื่องนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อรับข้อมูลทุกด้านอย่างละเอียด และเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีตามกรอบอำนาจตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษแล้ว จะส่งพื้นที่คืนให้กับกรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปจัดสรรให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์ได้ที่ดินตามกฎหมายต่อไป และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ รวมทั้งผู้มีอิทธิพลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้นส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” ร.ต.อ.ปิยะ กล่าว