กรณีชาวบ้านกลุ่มฅนรักบ้านเกิด ซึ่งรวมตัวคัดค้านเหมืองแร่โปแตชใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ชุมนุมที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ (26มิ.ย.66)
การชุมนุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 150 คน จาก 3 ตำบล คือ ต.หนองบัวตะเกียด ต.หนองไทร และ ต.โนนเมืองพัฒนา ใน อ.ด่านขุนทด ที่อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบการทำเหมืองแร่โปแตสของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด
พวกเขาเรียกร้องให้เหมืองแร่โปแตส เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ซึ่งหลังจากที่เหมืองแร่โปแตสแห่งนี้ได้รับอนุญาตตามประทานบัตรทำเหมืองโปแตสเป็นระยะเวลา 25 ปี ระหว่างปี 2558-2583 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ต.หนองไทร ต.หนองบัวตะเกียด และ ต.โนนเมืองพัฒนา อ.ด่านขุนทด รวมเนื้อที่กว่า 9,000 ไร่
ตัวแทนชาวบ้านอ้างว่า ระหว่างการขุดเจาะสำรวจแร่ ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา มีการปล่อยน้ำเสียความเค็มสูง ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบทำให้ที่ดิน ไร่นา ของชาวบ้านใน 3 ตำบล ได้รับผลกระทบจากความเค็ม ไม่สามารถทำไร่ ทำนาได้ ความเสียหายบริเวณกว้างหลายพันไร่และมีสิ่งปลูกสร้างและวัดถูกความเค็มกัดกร่อนพังเสียหาย
แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการเดินขบวนเรียกร้องของชาวบ้านมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังทำให้ต้องชุมนุมประท้วงและยื่นหนังสือถึงนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน และจะปักหลักหนอนรออยู่ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เป็นเวลา 2 คืน เพื่อรอฟังคำตอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้าเจรจากับกลุ่มผู่ชุมนุม และเตรียมเข้าตรวจสอบเหมืองและสั่งยุติการดำเนินการชั่วคราว รวมทั้งจะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ได้ข้อสรุปภายใน 10 วัน ทำให้ชาวบ้านยุติการชุมนุมแล้ว