รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เผยลุยพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่แค่ 3 ปี ได้มาแล้ว 21 พันธุ์ เป็นส่วนของกรมการข้าวปรับปรุง 12 สายพันธุ์ และของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจัดประกวดปี 64 จำนวน 6 สายพันธุ์ และปี 65 อีก 3 สายพันธุ์ รวม 9 สายพันธุ์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา ได้มอบรางวัลการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ ครั้งที่ 2 ที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-67 ที่ต้องการแก้จุดอ่อน คือ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ข้าวที่เสนอขายในตลาดโลก จึงได้เร่งเพิ่มพันธุ์ข้าวชนิดใหม่ เพื่อแข่งขันตลาดข้าวโลกกับประเทศคู่แข่ง ตั้งเป้า 5 ปี เพิ่มพันธุ์ข้าวใหม่อย่างน้อย 12 พันธุ์ เป็นข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ และข้าวโภชนาการสูง 2 พันธุ์
ทั้งนี้ ผลจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน ทำให้สามารถปรับปรุงพันธุ์ข้าว ได้ข้าวพันธุ์ใหม่เกินเป้าหมาย โดยช่วงปี 2563-65 กรมการข้าวปรับปรุงข้าวพันธุ์ใหม่และรับรองพันธุ์สำเร็จแล้ว 12 พันธุ์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จัดประกวดพันธุ์ข้าวชนิดใหม่ ทำมา 2 ปี ครั้งแรก ปี 2564 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ 6 สายพันธุ์ มีการรับรองพันธุ์ทดลองปลูกในแปลง ปีนี้เป็นปีที่ 2 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มมาอีก 3 พันธุ์ ตั้งแต่ปี 2563-65 วันนี้ทะลุเป้าแล้ว หากรวมกับของกรมการข้าว อีก 12 พันธุ์ รวมทำข้าวพันธุ์ใหม่ได้แล้ว 21 พันธุ์
“ทะลุเป้าทั้งเชิงปริมาณ จำนวนพันธุ์ข้าว และเงื่อนเวลาที่เร็วกว่าเป้าปี 2567 ซึ่งขอบคุณทุกคนที่มีส่วนสำคัญ จากนี้จะฝากกรมการข้าว และกรมการค้าต่างประเทศ ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดขึ้นต่อไป และขอให้กรมการข้าวเร่งรัดการจดทะเบียนข้าวพันธุ์ใหม่จากการตัดสินการประกวดโดยเร็ว เร่งผลิตเมล็ดพันธุ์ ทดลองปลูกในแปลงเกษตรกร นำผลผลิตไปเปิดตลาดข้าวโลก ผมหวังว่าการส่งออกข้าวไทยจากนี้จะดีขึ้น ไทยจะมีผลิตภัณฑ์จากข้าวที่มีความหลากหลายขายตลาดโลกมากขึ้น”นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวไทย ปี 2565 ไทยส่งออกข้าวได้ 7.7 ล้านตัน ปีนี้เชื่อว่าทะลุ 8 ล้านตัน และคาดว่าปี 2566 ไทยจะกลับมาผงาดเป็นลำดับที่ 2 โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่าปีก่อน ทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้ดีขึ้น ความต้องการข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น และไทยมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการของตลาดได้มากขึ้น และหวังว่าในอนาคต ภายใต้ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวที่ทำให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ จำนวนมาก ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ไทยจะกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวได้
ส่วนพันธุ์ข้าวที่ชนะการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ในปีนี้ ได้แก่ 1.รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวหอมไทย ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-06 2.รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวขาวพื้นนุ่ม ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-08 และ 3.รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวขาวพื้นแข็ง ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-13 โดยบริษัทรวมใจพัฒนาความรู้ จำกัด (มูลนิธิรวมใจพัฒนา) ทั้ง 3 รางวัล
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 4 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่ส่งออกได้ 3.51 ล้านตัน และทั้งปี 2566 น่าจะได้มากกว่า 8 ล้านตัน เพราะขณะนี้ทั่วโลกกังวลปัญหาภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ จึงเร่งนำเข้า และช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เวียดนาม จะมีข้าวเหลือส่งออกไม่มากนัก เพราะช่วงครึ่งปีแรกส่งออกไปแล้วกว่า 4 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปติ อีกทั้งราคาข้าวไทยขณะนี้แข่งขันได้ เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยราคาข้าว น่าจะสูงขึ้นได้อีก จากปัจจุบันข้าวขาว 5% ไทยตันละ 500 เหรียญสหรัฐ เวียดนาม 510 เหรียญสหรัฐ อินเดีย 480 เหรียญสหรัฐ และแม้เอลนีโญ จะกระทบต่อผลผลิตข้าวไทย แต่เชื่อว่า ไทยจะมีข้าวเหลือส่งออกแน่นอน
นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางไปพบปะเจรจากับผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไทย ทั้งฮ่องกง จีน และฟิลิปปินส์ ส่วนการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน ที่ทำสัญญาซื้อไทย 1 ล้าน และยังเหลือที่จะต้องซื้ออีก 280,000 ตันนั้น จากการหารือกับคอฟโก รัฐวิสากิจของจีนที่นำเข้าข้าว ได้รับการยืนยันจะซื้อจากไทยให้ครบตามสัญญา