นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกน้อยในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้ชาวสวนทุเรียนในเขตอำเภอปราณบุรี เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี จัดส่งรถบรรทุกน้ำ 5 คัน เข้าไปแจกจ่ายน้ำและช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นอกจากนี้ ยังได้นำรถแบคโฮ 2 คัน พร้อมรถบรรทุก เข้าไปทำการขุดลอกแหล่งน้ำในคลองพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลเขาจ้าว เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ให้มากที่สุด โดยจะช่วยเหลือไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
“ฝนตกที่น้อยในหลายพื้นที่ ส่งผลให้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ได้เน้นย้ำให้สำนักเครื่องจักรกล และโครงการชลประทานทุกแห่ง ดูแลเกษตรกรและประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำให้ดีที่สุด ซึ่งได้มีการจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ ที่พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ตลอดเวลา จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต” นายประพิศฯ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ หน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้านหรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460
กรมชลฯ ส่งรถน้ำช่วยเหลือชาวสวนทุเรียนป่าละอู ช่วยบรรเทาทุกข์จากภัยแล้ง
ขณะเดียวกันนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สำนักงานชลประทานที่ 14 โดยโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดส่งรถบรรทุกน้ำ เข้าไปแจกจ่ายน้ำให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่บ้านป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียน รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเเต่วันที่ 11 เม.ย. 66 ถึงปัจจุบัน ได้ให้การสนับสนุนรถบรรทุกน้ำไปแล้ว จำนวน 79 เที่ยว คิดเป็นปริมาณน้ำ 948,000 ลิตร และจะช่วยเหลือไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
“ในช่วงที่ผ่านมา ในหลายพื้นที่มีฝนตกที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ทำให้บางพื้นที่เริ่มเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ กรมชลประทาน ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ เข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต” นายประพิศฯ กล่าวในที่สุด