นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงการดำเนิน “โครงการศึกษาผลการฉายรังสีต่อคุณภาพหลังการ เก็บเกี่ยวมะม่วงมหาชนกและส้มโอเพื่อการส่งออกประเทศสหรัฐอเมริกา” รวมถึงความสำเร็จในการส่งออกส้มโอสด หลังกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ อนุญาตให้ไทยสามารถส่งออกส้มโอสด ด้วยวิธีการฉายรังสี เข้าสู่สหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรก และไม่จำกัดสายพันธุ์ เชื่อมั่นความสำเร็จสามารถกำหนดคุณภาพสินค้าผลไม้สดไทย ให้ตรงตามมาตรฐานสหรัฐฯ เพิ่มโอกาสในการส่งออกผลไม้สดไทยไปต่างประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) และ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกันทำ “โครงการศึกษาผลการฉายรังสีต่อคุณภาพหลังการ เก็บเกี่ยวมะม่วงมหาชนกและส้มโอเพื่อการส่งออกประเทศสหรัฐอเมริกา” ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนการส่งออกผลไม้สดด้วยการฉายรังสีก่อนส่งออกไปสหรัฐอเมริกาตามข้อกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้ไข่แมลงศัตรูพืชที่อาจติดไปฟักเป็นตัวและเกิดการแพร่กระจายของแมลงในประเทศปลายทาง โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน Animal and Plant Health Inspection Service (APHIS) จากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริการ่วมดำเนินการ
ทั้งนี้ สทน. พร้อมทำหน้าที่ตัวกลาง ประสานงานการส่งออก การสำรวจตลาด ทิศทางของตลาดส้มโอ ยืนยันว่าการฉายรังสีผลไม้ทุกชนิดเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยไม่มีรังสีตกค้าง มั่นใจได้ในคุณภาพ และความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และทีมนักวิจัยยินดีให้คำปรึกษาให้กับเกษตรกร ชาวสวน ผู้ประกอบการ ถึงการปฏิบัติ การดำเนินการ ในการยกระดับคุณภาพของผลไม้ไทย รวมทั้งจัดอบรมให้ความรู้ให้กับเกษตรกรไทยในอนาคต และคณะผู้วิจัยจะนำส้มโอฉายรังสีไปจัดแสดงในงาน Natural Products Expo East 2023 ณ เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน พ.ศ. 2566
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังได้เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ไทยสามารถส่งออกส้มโอสด ด้วยวิธีการฉายรังสี เข้าสู่สหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรก และไม่จำกัดสายพันธุ์ นับเป็นผลไม้สดไทยชนิดที่ 8 ที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้า จากเดิมที่มีมะม่วง มังคุด เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรด และแก้วมังกร โดยในเดือนมิถุนายนนี้ ส้มโอผลสดของไทยล็อตแรกที่ผ่านการตรวจสอบและปิดผนึกตู้ขนส่งแล้ว จะขนส่งทางอากาศไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ได้กำหนดเงื่อนไขการส่งออกว่า ต้องเป็นผลผลิตจากแหล่งผลิตที่ได้รับการรับรอง GAP โรงคัดบรรจุได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP มีการทำความสะอาดและกำจัดแมลงศัตรูพืช และเชื้อรา ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร อย่างเคร่งครัด รวมทั้งผู้ส่งออกต้องลงทะเบียนด้วย
“นายกรัฐมนตรียินดีต่อความสำเร็จในการส่งออกส้มโอสดของไทย และขอบคุณการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วนที่มีจิตใจที่จะร่วมพัฒนาประเทศซึ่งนายกฯเชื่อมั่นและให้กำลังใจว่าทุกการวิจัยมักจะนำมาซึ่งสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประเทศ ในส่วนของสินค้าเกษตรไทย เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบของประเทศปลายทาง เพื่อเป็นมาตรฐาน และเป็นชื่อเสียงของสินค้าไทย” นายอนุชาฯ กล่าว