บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตน้อยใหญ่ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พากันวางจำหน่าย “ทุเรียนไทย” อย่างคึกคัก
สำนักข่าวซินหัวได้สำรวจตลาดผลไม้ขนาดใหญ่หลายแห่งในอวิ๋นหนาน พบความต้องการทุเรียนสูงแม้ราคาผันผวน โดยความต้องการเติบโตต่อเนื่อง ขณะราคาทุเรียนพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี
“ปีนี้ยอดขายทุเรียนพุ่งแตะจุดสูงสุดเมื่อเดือนเมษายน แค่เฉพาะตลาดในอวิ๋นหนานขายทุเรียนไทยได้วันละ 7-8 หมื่นลูก” หลิวอวี้ตง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท อวิ๋นหนาน เก๋อต้าว เทรดดิง จำกัด กล่าว
หลิวกล่าวว่านับจากต้นเดือนมีนาคม บริษัทฯ ของเขาซื้อทุเรียนเฉลี่ยวันละ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ (รวมราว 34 ตัน) และจัดจำหน่ายไปทั่วจีนผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ปี้เจี้ยนเหว่ย ผู้อำนวยการตลาดผลไม้จินหม่า เจิ้งชาง ในนครคุนหมิง ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของอวิ๋นหนาน เผยว่าที่นี่ส่งออกผลไม้จากประเทศอาเซียนอย่างไทยและเวียดนามไปทั่วจีนทุกวัน
ปี้เสริมว่าปริมาณการจัดส่งทุเรียนไทยรายวันช่วงพีคอยู่ที่ 20-30 ตู้คอนเทนเนอร์ (รวมราว 340-510 ตัน) โดยทุเรียนหมอนทองเกรดเอมีราคาอยู่ที่ 700-800 หยวน (ราว 3,430-3,920 บาท) ต่อกล่อง
ด้านพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตเหอหม่า เซียนเซิง เผยว่าราคาทุเรียนหมอนทองจากไทย ช่วงก่อนหยุดวันแรงงาน อยู่ที่ 47.8 หยวน (ราว 234 บาท) ต่อกิโลกรัม ส่วนปัจจุบันอยู่ที่ 65.8 หยวน (ราว 322 บาท)
ถานหมิ่น จากบริษัท เทคโนโลยีการเกษตรอวิ๋นหนาน อี๋เฟิ่งหวง จำกัด ผู้นำเข้าและค้าส่งทุเรียน เสริมว่าราคาทุเรียนช่วงสิบวันแรกของเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนเกือบ 100 หยวน (ราว 490 บาท) ต่อกล่อง
“ราคาทุเรียนไทยในปีนี้พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี” หลิวอวี้ตงกล่าว พร้อมเสริมว่าราคาทุเรียนต่อกล่องในหลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 500 หยวน (ราว 2,450 บาท) แต่ปีนี้อยู่ที่ราว 800 หยวน (ราว 3,920 บาท)
ผู้ค้าผลไม้ในอวิ๋นหนานมักนำเข้าทุเรียนจากภาคตะวันออกและภาคใต้ของไทยเป็นหลัก โดยฤดูทุเรียนของแต่ละภาคนั้นนานราวหนึ่งเดือนครึ่ง ภาคตะวันออกเริ่มช่วงต้นเดือนเมษายน ส่วนภาคใต้เริ่มช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งราคาจะผันผวนตามปริมาณผลผลิต
ข้อมูลจากเหม่ยถวน โยวเสวี่ยน ระบุว่า ช่วงไม่นานนี้ เหม่ยถวนจำหน่ายทุเรียนไทยในตลาดอวิ๋นหนานเฉลี่ยวันละ 3 ตัน โดยยอดคำสั่งซื้อในอวิ๋นหนาน ช่วงเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 145 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
ขณะยอดจำหน่ายทุเรียนที่ตลาดผลไม้จินหม่า เจิ้งชาง ช่วงปี 2018-2022 แบ่งเป็น 1.5 หมื่นตัน 1.7 หมื่นตัน 1.98 หมื่นตัน 2.4 หมื่นตัน และ 3 หมื่นตัน ส่วนปีนี้คาดว่าจะสูงเกิน 3 หมื่นตัน