“อะโวคาโด” ไม้ผลเมืองหนาว ที่ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี สามารถปลูกอะโวคาโดกันได้แล้ว
ที่นี่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงโปว์ มีพื้นที่ติดกับป่าห้วยขาแข้ง โดยรอบมีภูเขาน้อยใหญ่โอบล้อม ในฤดูหนาวมีอากาศที่เย็นสบาย คล้ายคลึงกับพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้เหมาะกับการปลูกพืชผักและไม้ผลเมืองหนาวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอะโวคาโดและสตรอว์เบอร์รี
ซึ่งในอดีตชาวบ้านที่นี่นิยมทำเกษตรเชิงเดี่ยว โดยมีรายได้หลักจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ทำให้บ่อยครั้งเกิดปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่า และประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก ในเดือนมีนาคม ปี 2556 มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้เข้ามาดำเนินโครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตามแนวพระราชดำริ
เริ่มต้นจากการกำหนดขอบเขตที่ดินทำกิน การพัฒนาระบบน้ำ และปัจจัยการผลิตพื้นฐานให้เพียงพอต่อการเพาะปลูก มีอาหารเพียงพอต่อการบริโภค เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้ง การบุกรุกพื้นที่ป่า โดยให้ชาวบ้านได้ร่วมคิดร่วมวางแผน ร่วมเห็นประโยชน์ และร่วมลงมือทำ พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้คนกับธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้
ซึ่งหลังจากพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเรียบร้อยแล้ว ได้มีการต่อยอด ส่งเสริมให้ชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ ทำเกษตรผสมผสาน ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูก แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งมาปลูกพืชทางเลือก ไม้ยืนต้น ไม้ผล และพืชผักเมืองหนาวแบบผสมผสาน เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน
จากพื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยว วันนี้ที่ตำบลแก่นมะกรูดเต็มไปด้วยต้นอะโวคาโดที่ให้ผลผลิตแล้ว บางต้นกำลังติดดอก กลายเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่กำลังได้รับความสนใจ คนในชุมชนแบ่งพื้นที่หันมาปลูกกันเป็นจำนวนมาก และนอกจากอะโวคาโด พื้นที่ของชาวบ้านที่ปรับเปลี่ยนมาทำสวนเกษตรผสมผสาน ยังเต็มไปด้วยไม้ผลอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เงาะ ขนุน มะขาม พืชสมุนไพร พืชท้องถิ่นนา ๆ ชนิด ปลูกไล่ระดับเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ
นายตั้งชะกล้า อีมาด เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการปิดทองหลังพระฯ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เล่าว่า “ตั้งแต่ผมเลิกปลูกข้าวโพดและมันสําปะหลัง สุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ดีขึ้น ตอนนี้ในสวนของผม บนพื้นที่ 5 ไร่ ปลูกไม้ยืนต้นและพืชผลเมืองหนาวกว่า 20 ชนิด มีทั้ง อะโวคาโด กาแฟ โกโก้ ขนุน ทุเรียน น้อยหน่า ฯลฯ จึงอยากชวนพี่น้องในพื้นที่และเกษตรกรที่สนใจ หันมาทำสวนเกษตรผสมผสาน ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ นอกจากจะสร้างความมั่นคงทางอาหารแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ได้ทุกวัน
สำหรับต้นอะโวคาโดในสวนผมมีอยู่ทั้งหมด 75 ต้น ที่ปลูกไว้ ผลผลิตตอนนี้ได้ทยอยออกขายสู่ท้องตลาด มีพ่อค้ามารับถึงที่สวน ซึ่งการปลูกอะโวคาโดนั้น ต้องดูแลเรื่องน้ำเป็นพิเศษ โดยเฉพาะใน 3 ปีแรก พอต้นอายุ 5-6 ปี ไม่ต้องดูแลเท่าไร และอย่าไปปลูกมาก ปลูกน้อย ๆ แต่ดูแลดี ๆ ให้ปุ๋ยธรรมชาติ ก็จะประสบผลสำเร็จ”