กรมชลฯชู อ่างฯโสกซับแดง แหล่งน้ำเพื่อชาวชนแดน จ.เพชรบูรณ์

กรมชลประทาน กางแผนศึกษาวางโครงการอ่างเก็บน้ำโสกซับแดง ตำบลลาดแค อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ หวังเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำ บรรเทาปัญหาภัยแล้ง สร้างรายได้ ขยายอาชีพให้ชาวชนแดนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลลาดแค อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ มักประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากไม่มีน้ำไหลผ่านในลำคลอง ทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และปศุสัตว์ ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของราษฎรในพื้นที่ ส่วนใหญ่ต้องอาศัยน้ำจากน้ำฝนธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ทำให้รายได้จากผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำและไม่แน่นอน กรมชลประทานได้เล็งเห็นถึงปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้จัดทำรายงานการศึกษาโครงการเบื้องต้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาวางโครงการ การสำรวจภูมิประเทศ การสำรวจธรณีฐานราก การสำรวจบ่อยืมดิน การออกแบบเบื้องต้น และการสำรวจกันเขต โดยวางแผนจะดำเนินงานก่อสร้างในระยะเวลา 3 ปี (2569- 2571)

340622719 1255757415070462 912902792779952948 n

ทั้งนี้ หากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเก็บกักน้ำได้ประมาณ 4.43 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่จะส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการเกษตรในฤดูฝนกว่า 5,000 ไร่ และฤดูแล้งประมาณ 2,000 ไร่ ที่สำคัญจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการปศุสัตว์ของราษฎรในพื้นที่โครงการและพื้นที่ใกล้เคียงได้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ทั้งยังช่วยบรรเทาอุทกภัยด้วยการชะลอน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากไม่ให้ท่วมพื้นที่ตอนล่าง ซึ่งจะส่งผลให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจได้อีกทางหนึ่งด้วย

กรมชลฯ เดินหน้าปรับปรุงชลประทานขนาดกลาง จ.น่าน หวังแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งอย่างยั่งยืน

ส่วนอีกความเคลื่อนไหว กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดน่าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงการฯ ให้สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และปัญหาอุทกภัย ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมและยั่งยืน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดน่าน ได้ดำเนินการก่อสร้างและใช้งานมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้อาคารหัวงาน ระบบชลประทาน และระบบระบายน้ำของโครงการฯ อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม อีกทั้งความต้องการใช้น้ำ ทั้งภาคการเกษตร และภาคส่วนอื่น ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาน้ำท่วมที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เป็นต้น ทำให้อาคารหัวงานของโครงการเดิม ไม่สามารถรองรับ และแก้ไขปัญหาได้อย่างเต็มศักยภาพ กรมชลประทาน จึงได้มีการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดน่าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการฯ ให้สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาอุทกภัยได้อย่างยั่งยืน โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการรวม 450 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2566 และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 2 เม.ย. 2567 นี้

สำหรับขอบเขตพื้นที่การศึกษาฯของโครงการ ครอบคลุมพื้นที่โครงการชลประทานขนาดกลางรวม 12 โครงการ ใน 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเวียงสา ได้แก่ ฝายฝา อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำฮิ อ่างเก็บน้ำห้วยชื่นพร้อมระบบส่งน้ำ อำเภอเมืองน่าน ได้แก่ ฝายสมุน อำเภอปัว ได้แก่ ฝายน้ำย่าง ฝายน้ำปัว อำเภอเชียงกลาง ได้แก่ ฝายน้ำกอน อำเภอภูเพียง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยแฮต อำเภอสันติสุข ได้แก่ อ่างเก็บน้ำน้ำพง อำเภอนาน้อย ได้แก่ อ่างเก็บน้ำน้ำแหง อำเภอท่าวังผา ได้แก่ อ่างเก็บน้ำน้ำริม พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฝายน้ำยาว พร้อมระบบส่งน้ำ พื้นที่รับประโยชน์โครงการรวม 60,482 ไร่