ณ ห้องสารสิน ตึกสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการพัฒนาวิชาการด้านการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ ระหว่าง กรมประมงกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านการวิจัย พัฒนาด้านการประมงไทยให้ครบวงจร โดยมีคณะผู้บริหารจากทั้งสองฝ่าย ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมง ในฐานะหน่วยงานของรัฐสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ทำการศึกษา ค้นคว้า สำรวจ วิจัย วิเคราะห์ และทดลองทุกสาขาวิชาด้านการประมง ตลอดจนทำการส่งเสริมสนับสนุน และพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวกับการประมงของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการพัฒนาการประมง ให้ทันตามกระแสต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน จึงเป็นที่มาในการทำบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิขาการร่วมกันกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยด้านการประมงแบบครบวงจร และเพิ่มศักยภาพบุคลากร ทั้งด้านวิชาการ ด้านการวิจัย และด้านการบริการวิชาการ เพื่อผลักดันและส่งเสริมการดำเนินงานในการพัฒนาด้านการวิจัยและวิชาการประมงให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล รวมถึงนำองค์ความรู้ที่ได้จากการร่วมมือระหว่างกันไปถ่ายทอดแก่เกษตรกรให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เป็นการสร้างรายได้และอาชีพให้เกิดความมั่นคงต่อไป
ด้านรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับกรมประมง เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการซึ่งเป็นแนวทางที่จะดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกัน ในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพภาคประมงให้มีความเข็มแข็งและสร้างประโยชน์สู่เกษตรกรของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่พร้อมให้บริการเพื่อสังคม และประสานผลประโยชน์ ในการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ในงานพิธีลงนามยังได้มีการจัดแสดงนิทรรศการ ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในระบบประมงน้ำน้อยอย่างยั่งยืน” ประกอบด้วย นวัตกรรมด้านการประมงที่น่าสนใจ อาทิ การเลี้ยงกบร่วมกับปลา การเลี้ยงกุ้งขาวความเค็มต่ำในระบบน้ำหมุนเวียน (RAS) เป็นต้น
อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลงนามฯ ในครั้งนี้จะนำไปสู่การบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัยและการพัฒนาอย่างยั่งยืน กรมประมง พร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้าน ทั้งการสนับสนุนถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในด้านการประมง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาการประมงของไทยสืบไป