สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.)จับมือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ดึงเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ เข้าร่วมใช้ประโยชน์จากระบบ TraceThai.com ในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยอาหาร รักสุขภาพ และป้องกันสินค้าไม่ได้คุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ประชุมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการขยายฐานผู้ใช้งานกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ให้ใช้ประโยชน์จากระบบ TraceThai.com ซึ่งเป็นระบบติดตามและตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ภายใต้ “โครงการประยุกต์ใช้ Blockchain ยกระดับเศรษฐกิจการค้า” ที่ สนค. ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 และสอดคล้องกับการสนับสนุนการทำธุรกิจแบบ BCG การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และการยกระดับสินค้าเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงพาณิชย์
“สนค. จะร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด มุ่งสร้างการรับรู้ และขยายฐานผู้ใช้งานระบบ TraceThai.com โดยเชิญชวนเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการที่ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีศักยภาพและสนใจในจังหวัดต่าง ๆ เข้าร่วมใช้งานระบบ ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์ด้านความปลอดภัยในอาหาร เทรนด์ด้านสุขภาพ และยังป้องกันปัญหาสินค้าไม่ได้คุณภาพ สินค้าปลอมแปลง และใบรับรองมาตรฐานที่ไม่ถูกต้อง และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์”นายพูนพงษ์กล่าว
ปัจจุบัน ระบบ TraceThai.com มีผู้ใช้กลุ่มนำร่องครอบคลุมสินค้าอินทรีย์ที่ได้รับมาตรฐานอินทรีย์ (Organic Thailand) ของกรมการข้าว และมาตรฐานอินทรีย์ระดับสากล เช่น EU Organic , USDA และ IFOAM เป็นต้น โดยมีสินค้าเกษตรอินทรีย์ เช่น ข้าว ผักสลัด กวางตุ้ง กล้วยน้ำว้า สตรอเบอรี เห็ดถั่งเช่า ชา โกโก้ ถั่วงอก ดอกเก๊กฮวย ดอกกุหลาบ ดอกอัญชัน คาราเมลมะพร้าว และไก่ รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เช่น ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวเจ๊กเชยสาวไห้สระบุรี หอมและกระเทียมศรีสะเกษ ชาเชียงราย มะพร้าวประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น และในปี 2566 สนค. ได้ตั้งเป้าจะขยายครอบคลุมในกลุ่มเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) เพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับโครงการประยุกต์ใช้ Blockchain ยกระดับเศรษฐกิจการค้า เป็นการพัฒนาระบบต้นแบบการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้วยเทคโนโลยี Blockchain หรือระบบ TraceThai.com เพื่อใช้ติดตามหรือตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอินทรีย์ โดยการจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย Blockchain ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ โปร่งใสและปลอดภัย เหมาะกับการจัดเก็บข้อมูลการผลิตและการค้าในห่วงโซ่อุปทาน โดยผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศสามารถตรวจสอบข้อมูลการรับรองมาตรฐานและที่มาของสินค้าได้โดยสแกน QR Code หรือค้นหาด้วยหมายเลขล็อต ขณะที่ผู้ผลิต เกษตรกร ผู้ประกอบการสามารถใช้ระบบ TraceThai.com เป็นเครื่องมือจัดการหรือควบคุมการผลิต การส่งต่อข้อมูลสินค้าให้กับคู่ค้า และสามารถส่งผ่านข้อมูลใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ได้อย่างปลอดภัย